กระเป๋าสตางค์สีม่วง

กระเป๋าสตางค์สีม่วง – ถูกโฉลกกับผู้เกิดวันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันพุธ

เทรนด์การเลือกใช้กระเป๋าสตางค์ที่สีถูกโฉลกตามวันเกิด อย่างกระเป๋าสตางค์สีม่วงนี้ เชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงด้านการเงิน และโชคลาภ รวมถึงเรื่องดวงในด้านหน้าที่การงานด้วย สำหรับกระเป๋าสตางค์สีม่วง ในปี 2561 นี้ จะเหมาะกับผู้ที่เกิด วันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันพุธทั้งกลางวันและกลางคืน โดยสำหรับวันอาทิตย์ จะได้พลังจากการใช้กระเป๋าสตางค์สีม่วงมากที่สุด จะช่วยเพิ่มพูนโชคลาภ โดยมีเคล็ดลับเพิ่มนิดนึงว่า ให้มีเงินขวัญถุงเป็นแบงค์ 500 ที่ลงท้ายด้วยเลข 15 ก็ถือเป็นเคล็ดที่ช่วยเรียกทรัพย์มากขึ้นอีกด้วย

กระเป๋าสตางค์สีม่วง สำหรับสุภาพสตรี ราคาถูก เสริมดวง กระเป๋าสตางค์ถูกโฉลก วันอาทิตย์ วันพุธ วันจันทร์

กระเป๋าสตางค์สีม่วง-ผู้หญิง-สั้นยาว

สารพัดสารพันความเชื่อสำหรับ กระเป๋าสตางค์ รู้ไว้ไม่เสียหาย

ถ้าอยากมีเงินมาก ต้องขยันเก็บขยันออม สร้างอนาคตที่มีความมั่นคงและมั่งมีด้วยตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ  แต่ถ้าเราชอบใช้เงินมือหนัก หรือที่เรียกว่า ใช้เงินเหมือนกระเป๋าสตางค์รั่ว หาได้เท่าไรจ่ายออกไปเท่านั้น บางคนจะมีเทคนิคในการเลือกซื้อกระเป๋าสตางค์ โดยอาศัยหลักทางโหราศาสตร์เข้ามาช่วยด้วย โดยเชื่อกันว่า จะทำให้การเก็บออมเงินอยู่หมัดมากขึ้นกว่าเก่า อีกทั้งยังเพิ่มความเฮง ความรวย ช่วยให้เงินทองไหลมาเทมา ซึ่งก็ถือเป็นศาสตร์ที่น่ารู้ไม่น้อย เพราะทำตามแล้วก็ไม่เสียหาย อีกทั้งยังมีโอกาสเพิ่มโชคเข้ามาให้กับตนเองด้วย จริงไหมคะ? มาดูกันดีกว่า ว่าความเชื่อในเรื่องของกระเป๋าสตางค์และความร่ำรวยของประเทศไทยที่ผ่านมา มีแบบไหนที่น่าสนใจและน่าลองเอาไปทำตามกันบ้าง

1. เลขมงคลกับช่องเก็บเงินในกระเป๋าสตางค์

กระเป๋าสตางค์มีให้เลือกอยู่มากมายหลากหลายแบบ ทั้งแบบพับแนวตั้ง พับแนวนอน มีทั้งกระเป๋าขนาดเล็ก และกระเป๋าสตางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในเรื่อง แบบ ของกระเป๋าสตางค์นั้น ก็มักจะเลือกซื้อตามลักษณะการใช้งาน และตามความนิยมเป็นหลัก แต่จะเน้นไปที่การเลือกกระเป๋าสตางค์ที่มีช่องเก็บในกระเป๋า รวมแล้วให้ได้ 8-9 ช่อง เพราะเชื่อนัยว่า เลข 8 และ เลข 9 นั้น เป็นเลขมงคลเสริมดวง โดยเลข 8 จะหมายถึงความรุ่งเรืองร่ำรวย ส่วนเลข 9 จะหมายถึงโชคลาภวาสนาและความสำเร็จ แต่ถ้ากระเป๋าที่คุณ ๆ ถูกใจ มีช่องใส่เงินเกินกว่า 9 ช่อง ก็จะใช้วิธีเลือกใส่เงินหรือใส่ของทั้งหมดเพียง 9 ช่องแทนก็ใช้ได้ ส่วนช่องที่เหลือ ก็ให้ปล่อยไว้ว่าง ๆ ไม่ต้องใส่อะไรลงไปเลย

2. กระเป๋าสตางค์ฉีก เงินทองรั่วไหลง่าย

ความเชื่อในเรื่องกระเป๋าสตางค์เสริมดวง ที่มักจะถือกันมาตลอดก็คือ อย่าใช้กระเป๋าสตางค์ที่หลุดลุ่ยฉีกขาด ถึงจะรักและใช้งานกันมานาน ก็ต้องหักใจ หากระเป๋าสตางค์คู่ใจใบใหม่มาแทน เพราะนอกจากในเรื่องของเคล็ดที่กระเป๋าชำรุดจัดว่าไม่เป็นมงคล ทำให้เงินทองรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่ แล้ว ในความเป็นจริง ก็อาจจะทำให้เงิน หรือเหรียญตกออกจากกระเป๋าไปได้ด้วย นอกจากนี้ควรดูแลตัวกระเป๋าให้สะอาด จัดระเบียบธนบัตรให้หยิบใช้ง่าย โดยเชื่อว่า จะช่วยให้มีโชคด้านการเงินเพิ่มขึ้น ความเชื่ออีกอย่างก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้กระเป๋าสตางค์มือสอง นอกจากจะเป็นกระเป๋าสตางค์ของเจ้านาย ที่มีตำแหน่งสูงและร่ำรวย คนสมัยก่อน มักจะชอบขอ กระเป๋าเงินใบเก่าของเจ้านายที่ยังดูดีอยู่ มาใช้เสริมดวงให้เรา ซึ่งก็ถือเป็นเคล็ดอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยชอบใช้กัน

3. เก็บเงินขวัญถุงติดกระเป๋าเอาไว้ไว้เสมอ ไม่ปล่อยให้กระเป๋าสตางค์ว่างเปล่า

ถึงแม้ทุกวันนี้เงินเดือนจะน้อยนิด ใช้เงินแบบเดือนชนเดือนเป็นประจำ เรื่องเงินเก็บออมเงินไว้ไม่ต้องพูดถึง แค่มีเงินพอใช้ให้ครบเดือนก็หนักหนาสาหัสแล้วก็ตามที แต่ว่าอย่างน้อยก็ควรเก็บเงินขวัญถุงไว้ในกระเป๋า จำนวนมากหรือน้อยไม่สำคัญ โดยเงินที่นิยมเป็นเงินขวัญถุงติดกระเป๋านั้น มักจะเป็นเงินจากซองอั่งเปา หรือเงินจากงานมงคลต่างๆ เก็บเอาไว้ให้เป็น “เงินขวัญถุง” ด้วยความเชื่อว่าจะนำโชคดี ทำให้กระเป๋าตุงเต็มตลอดเวลา มีเงินใช้ไม่ขาด ความเชื่อเรื่องเงินขวัญถุงติดกระเป๋านั้น เชื่อว่า ทำให้ทำกิจการอะไรก็รุ่งเรือง ทำให้มีเงินทองไหลมาเทมา โชคลาภมีอย่างไม่ว่างเว้น เงินขวัญถุงมักจะเก็บเงินจำนวนไม่มาก อาศัยว่าเป็นเงินมงคล บางคนก็จะนิยมเก็บเงินขวัญถุงที่พ่อแม่ให้ประจำตัวไว้ ก็ทำให้เวลาดูแล้ว มีแรงใจต่อสู้กับงาน และกัดฟันฝ่าฟันไปได้อย่างไม่สิ้นหวัง

4. พับธนบัตรเป็นรูป “ฮู้”

การเก็บเงินขวัญถุง พกติดตัวไว้ในกระเป๋าธนบัตร ไม่ใช่ว่าจะใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์เฉยๆ เลยนะคะ โดยมากจะนำมาพับเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายยันต์ของชาวจีนที่เรียกว่า “ฮู้” ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นเครื่องรางของขลัง มีคุณด้านให้โชคลาภ เรียกทรัพย์สมบัติเข้ากระเป๋า พับแล้วก็อย่าลืมตั้งจิตอธิษฐานขอพรเป็นกำลังใจให้ขยันทำมาหากิน เพื่อให้อนาคตมีเงินทองไหลมาเทมากันไม่ขาดระยะ

5. อย่าใส่บัตรต่างๆ ไว้จนกระเป๋าสตางค์ตุง

หลายๆคนมักจะเก็บนามบัตร บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัตรส่วนลดตามร้านอาหาร และยังมีบัตรต่างๆ ใส่กระเป๋าสตางค์ไว้เต็มไปหมด ซึ่งตามหลักความเชื่อแล้ว กระเป๋าสตางค์จะต้องเก็บเงินตราเพียงอย่างเดียว หากเอาไปใส่บัตรต่างๆ ไว้แน่น จะทำให้เก็บเงินไม่อยู่ และเงินก็จะไม่ไหลเข้า เคยสังเกตุไหมคะว่า หลาย ๆ คนที่มีความเชื่อเรื่องนี้ มักมีกระเป๋าเก็บบัตรอีก 1 ใบ เพื่อนำมาใช้เก็บบัตรติดกระเป๋าต่าง ๆ เช่น บัตรประชาชน บัตรพนักงาน ซึ่งแนวทางนี้ ก็ยังเป็นการช่วยกำหนดระเบียบจัดเก็บของใช้จำเป้นต่าง ๆ ให้เรียบร้อย หยิบใช้ก็สะดวก หาง่าย ไม่ปะปนกันด้วย

6. แยกกระเป๋าสำหรับใส่เหรียญไว้ต่างหาก

เรื่องเกี่ยวกับเศษเหรียญนั้น ก็มีความเชื่อเกี่ยวกับการเก็บเงินเหรียญเหมือนกัน โดยไม่นิยมใส่เศษเหรียญรวมไว้ในกระเป๋าสตางค์ด้วยกัน เพราะเชื่อว่า จะสกัดแบงค์ไม่ให้ไหลเข้ากระเป๋า ซึ่งในกระเป๋าเงินนั้น นอกจากธนบัตรแล้ว ควรเลือกที่จะพกเครื่องรางประจำตัว ไว้เป็นของขลังช่วยดูดทรัพย์ให้ไหลเข้ามาดีกว่า การเลือกพกธนบัตรเป็นเงินขวัญถุง ที่เหมาะกับปีนักษัตรก็ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย โดยจะเป็นการพกธนบัตรตามปีนักษัตรของไทยเรา ซึ่งแต่ละปีก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • ปีชวด ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 7
  • ปีฉลู ธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 2
  • ปีขาล ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 5
  • ปีเถาะ ธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 6
  • ปีมะโรง ธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 3
  • ปีมะเส็ง ธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 4
  • ปีมะแม ธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 1
  • ปีมะเมีย ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 6
  • ปีวอก  ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 4
  • ปีระกา ธนบัตร 50 บาทลงท้ายด้วยเลข 9
  • ปีจอ เลือกพกธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 0
  • ปีกุน เลือกพกธนบัตร 50 บาทลงท้ายด้วยเลข 4

7. กระเป๋าสตางค์ที่ดีควรจะมีซิปให้เก็บเงินอยู่

กระเป๋าสตางค์ที่ดีควรจะมีซิปช่วยให้เก็บเงินอยู่ หรืออีกแง่หนึ่งก็คือ ช่วยเก็บเงินทองรวมถึงของมีค่าอื่นๆให้ปลอดภัย ไม่ตกหล่นง่ายๆนั่นเอง

แนวคิดเรื่องกระเป๋าสตางค์ ส่วนมากแล้วที่ปฏิบัติต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ก็เป็นเรื่องของความสบายใจเป็นสำคัญ อีกทั้งยังช่วยสร้างแง่มุมที่ดีต่อการเก็บออม รู้จักการจัดระเบียบกระเป๋าสตางค์ เมื่อมีการเอาใจใส่เรื่องกระเป๋าสตางค์ พร้อมด้วยการจัดระเบียบรายรับรายจ่ายเป็นอย่างดี มีความมุ่งมั่นและมีวินัยในการเก็บออมเงินให้ได้ตามเป้าหมายไปพร้อม ๆ กันแล้ว เช่นนี้ยังไงก็ต้องเรียกว่าถูกหลักฮวงจุ้ยทุก ๆ สำนัก และเงินทองก็จะไหลมาเทหาอย่างแน่นอนค่ะ