รถหัดเดิน รถผลักเดิน เพิ่มความมั่นใจให้แก่ก้าวแรกของลูกน้อย
รถหัดเดิน เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่ง ที่จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณมีความมั่นใจในการก้าวเดินแต่ละก้าว ทำให้เด็ก ๆ มีความสนุกและไม่กลัวการเริ่มเดิน เมื่อโตมานิดนึง อาจจะเลือกใช้เป็น รถผลักเดิน ซึ่งเดี๋ยวนี้จะมีแบบปรับความหนืดได้ด้วย ก็จะช่วยให้การฝึกเดินของลูกน้อย มีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย รถผลักเดินจะมีประโยชน์ตรงที่เด็ก ๆ จะได้เข็นรถเดินไปพร้อม ๆ กับเสียงเพลงที่สนุกสนานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพบว่า เด็กบางคนสามารถเริ่มเดินได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ยังไม่ 1 ขวบดี ซึ่งทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องให้กำลังใจ และช่วยประคับประคอง ดูแลความปลอดภัยของน้อง ๆ เป็นอย่างดีด้วยนะคะ
รถหัดเดิน รถผลักเดิน สำหรับเด็กวัยฝึกเดิน รถหัดเดินแบบไหนดี 2018
สิ่งควรรู้เกี่ยวกับ รถหัดเดิน และรถผลักเดิน ใช้ยังไงให้ลูกน้อยเดินได้เร็วขึ้น
เมื่อถึงวัยที่ลูกน้อยเริ่มหัดเดิน จะสังเกตได้ว่าเด็กเกาะยืนและเดินได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมเดินเองด้วยขาสองข้างสักที พ่อแม่นิยมใช้รถหัดเดินช่วยให้ลูกวัยตั้งไข่เคลื่อนไหวขาไถพื้นไปมาก่อน เด็กจะเคลื่อนไหวขยับขาไม่อยู่นิ่ง รู้สึกชอบเพราะกำลังเข้าสู่ช่วงวัยอยากหัดเดินเอง เพียงแต่แข้งขายังไม่แข็งแรงพอ ลองซ้อมวิ่งในรถหัดเดินไปก่อน ช่วยกระตุ้นให้ขยับเท้าเดินเร็วขึ้น พ่อแม่ต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันล้มคว่ำหรือตกจากที่สูง
รถหัดเดินจำเป็นแค่ไหน?
บ้านไหนที่ลูกคลานเก่งและเกาะยืนได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมเกาะเดินเองเสียที รถหัดเดินเป็นอุปกรณ์ตัวช่วยเด็กวัยเตาะแตะให้รู้สึกสนุกกับการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เริ่มแรกอุ้มให้นั่งทรงตัวในรถก่อน ปรับระดับที่นั่งให้ปลายเท้าพอสัมผัสพื้นได้ ลากรถหัดเดินไปรอบๆ ในบริเวณที่กว้างโล่ง ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เกะกะ ระหว่างที่ล้อรถหมุนไป เท้าน้อยๆ จะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ปลายเท้าแตะพื้นสลับกันทีละก้าว
เมื่อเกิดความคุ้นเคยกับการขยับขาแล้ว เริ่มปรับระดับเบาะนั่งให้ฝ่าเท้าของเด็กสัมผัสพื้นเต็มที่ วิธีนี้เป็นจะช่วยแก้ไขปัญหาเด็กใช้ปลายเท้าจิกบนพื้น ทำให้หัดเดินไม่ได้ เพราะผิดหลักธรรมชาติที่จะต้องใช้ส้นเท้าลงก่อน ซึ่งกลายเป็นประเด็นวิจารณ์กันว่าเหตุเพราะนั่งรถหัดเดินแล้วใช้ปลายเท้าจิกพื้นทำให้เด็กหัดเดินได้ช้าลง หากปรับที่นั่งจนเด็กสามารถไถพื้นไปได้เต็มฝ่าเท้า ก้าวสลับขาอย่างว่องไว ฝ่ายพ่อแม่จะต้องส่งเสียงกระตุ้นให้เขาเคลื่อนที่เข้าไปหา เด็กจะก้าวเท้าถีบตัวไปข้างหน้าเพราะอยากเข้าหาพ่อแม่ การใช้รถหัดเดินจึงเป็นระยะหนึ่งของพัฒนาการวัยเด็ก ช่วยสร้างพลังขาและสร้างความมั่นใจทำให้อยากจะลองเดินเองดูบ้าง
ฝึกหัดให้ลูกน้อยลุกเดินเอง
หลังจากผ่านขั้นตอนการหลอกล่อให้อยากลุกเดินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแล้ว ถึงเวลาที่จะฝึกให้ลูกน้อยลุกขึ้นยืนและก้าวขาเดินเอง ลองจับมือและดึงรั้งให้เด็กเริ่มก้าวเท้าออกเดินไปไหนต่อไหนเอง เพราะเด็กมีความพร้อมทางจิตใจและขาก็มีพละกำลัง จะรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะกลัว อย่ากระตุ้นลูกน้อยมากเกินไป ไม่ควรเร่งเด็กให้เดินเร็วๆ พ่อแม่พยายามสอนให้เด็กเรียนรู้การก้าวทีละเท้า ลงส้นเท้าก่อน ทรงตัวให้ดี แล้วถ่ายน้ำหนักไปที่เท้าอีกข้างหนึ่ง พอเดินได้ระยะหนึ่งแล้วจะเกิดความมั่นใจทำให้จับมือเดินระยะไกลมากขึ้น สุดท้ายก็จะปล่อยมือพ่อแม่และเริ่มเดินด้วยสองขาของเขาเองในที่สุด
สร้างความมั่นใจโดยไม่เร่งรัดเกินไป
เด็กวัยคลานยังไม่กล้าลุกเดินเอง อย่างมากก็จะเกาะยืนและเกาะเดินระยะใกล้ๆ พ่อแม่บางคนร้อนใจคิดว่าจะใช้รถหัดเดินเพื่อเร่งรัดให้ลูกน้อยเดินได้เร็ว กลับส่งผลเสียให้เด็กเคลื่อนที่โดยใช้ปลายเท้าจิกลงพื้นและไถตัวไปมาเร็วจริง แต่ไม่ใช่กลไกการเดินตามธรรมชาติของทุกอย่างมีคุณและมีโทษ รถหัดเดินเป็นอุปกรณ์ช่วยให้ลูกน้อยขยับเท้าไปเรื่อยๆ ลองก้าวไปทีละข้างอย่างช้าๆ พอรู้สึกว่าเคลื่อนไหวคล่องแคล่วดีแล้ว เริ่มจะเกาะเดินไปไกลมากขึ้นไม่อยากนั่งรถแล้ว จึงจูงมือให้ลองเดินเอง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ข้อดีของการเดินเองได้เร็วคือมีกระดูกที่แข็งแรง การเดิน วิ่ง และเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลาจะเสริมความแข็งแรงของกระดูกหน้าแข็งและสะโพก มีผลต่อต่อเนื่องไปถึงการเจริญเติบโตในช่วงวัยรุ่นอีกด้วย
ใช้รถหัดเดินแบบไหนดี
ในช่วงที่น้อง ๆ ยังขาไม่แข็งแรงมาก อาจจะลองเลือกใช้เป็นรถหัดเดิน แบบที่นิยมจะเป็นแบบ รถกลมหัดเดิน ที่มีที่นั่งแบบเต็มก้น ปรับสายที่นั่งให้สูงสักนิดหนึ่ง เพื่อให้หนู ๆ เดินได้อย่างหมดกังวล แต่ถ้าอยู่ในช่วยที่น้อง ๆ หนู ๆ ขาเริ่มแข็งแรงมากขึ้นแล้ว อาจจะเลือกเป็นแบบรถผลักเดินหรือเก้าอี้หัดเดิน แบบที่มีสีสัน หรือเสียงเพลง และควรปรับระดับความหนืดได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถผลักเดิน โดยเด็กในวัยนี้ทุกคนจะชอบอะไรที่ผลักได้ และมีเสียงเพลงเพราะ ๆ เป็นพิเศษ การใช้รถผลักเดิน รถเข็นหัดเดินสำหรับเด็ก ช่วยฝึกนั้น ก็จะทำให้น้องเค้าเดินได้เก่งขึ้น เร็วขึ้นด้วย แต่ข้อสำคัญที่สุดก็คือทุกครั้งที่ใช้รถหัดเดิน จำเป็นต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา เลือกสถานที่โล่ง เป็นพื้นเรียบไม่มีสิ่งขรุขระกีดขวางให้สะดุดเสียหลัก หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีพื้นต่างระดับเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หรือถ้าฝึกหัดกันภายในบ้าน อย่างน้อยเฟอร์นิเจอร์ในบ้านต้องไม่มีขอบคมอันตรายอย่างขอบโต๊ะ ขอบเตียง