อาหารเปียกแมว อาหารแมวแบบกระป๋อง ยี่ห้อไหนดี: รวมอาหารเปียก 9 ยี่ห้อ ที่แนะนำจาก Pantip
อาหารเปียกแมว มีจุดเด่นตรงกลิ่นและเนื้อสัมผัสที่ชวนทาน อีกทั้งยังเคี้ยวง่ายกลืนง่าย จึงเหมาะสำหรับลูกแมว หลังหย่านมแม่ รวมถึงแมวอายุมาก ที่มีอาการเบื่ออาหาร เคี้ยวยาก แมวที่ป่วย อาหารเปียกแมว หรืออาหารแมวแบบกระป๋อง จะมีปริมาณน้ำในอาหารที่มาก ซึ่งข้อดีก็คือจะทำให้แมวไม่ขาดน้ำ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไตได้เป็นอย่างดี
การเก็บรักษาอาหารแมว (กรณีซื้อแบบกระป๋อง/แบบซอง แล้วทานไม่หมดในครั้งเดียว)
อาหารแมวแบบเปียก จะเสียง่ายกว่าแบบเม็ดมาก ทั้งแบบกระป๋องและแบบซอง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ควรเลือกซื้อแบบซองเล็กให้พอดีทานครั้งเดียวหมด ก็จะลดปัญหาเรื่องอาหารบูดเสียได้ แต่หากว่าซื้อแบบกระป๋องที่มีปริมาณบรรจุมาก และทานไม่หมดในครั้งเดียว ให้ใช้วิธีเก็บใส่ตู้เย็น โดยอาจจะเทอาหารลงถุงแกง มัดปากถุงให้สนิท และเข้าตู้เย็น และนำออกมาทานในวันถัดไป โดยการเติมน้ำอุ่น หรือเข้าไมโครเวฟสัก 1 นาที ก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ ที่สำคัญให้ระวังเพียงแค่เรื่องอุณหภูมิของตู้เย็น กรณีตู้เย็นไม่ค่อยเย็น ควรใส่ไว้ตรงช่องแช่ของสด (ใต้ช่องฟรีซ) ก็จะพอช่วยได้บ้างค่ะ
อาหารเปียกแมว/อาหารกระป๋องแมว ยี่ห้อไหนดี
แมวแต่ละตัว มีความชอบกลิ่น และความเบื่ออาหารง่าย-ยาก แตกต่างกันไป (โดยส่วนตัวแล้ว เคยลองให้ทานอยู่หลายยี่ห้อ แต่ที่โปรดจริง ๆ จะมีของ Nekko กับ Ciao ที่เทหาย เทหาย) สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะซื้ออาหารเปียก ให้น้องแมวทาน เราจึงได้รวมรวมความคิดเห็นแนะนำยี่ห้ออาหารเปียกสำหรับแมว จากเว็บไซต์ Pantip เพื่อให้เห็นว่าส่วนใหญ่แล้ว แมวชอบกินของยี่ห้อไหนบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้น เพื่อลดโอกาสในการซื้อมาแล้ว “แมวเมิน” นั่นเองค่ะ
อาหารเปียกแมว Whiskas (สูตรลูกแมว และแมวโตเต็มวัย)
อาหารแมวแบบเปียก ของ Whiskas จะมีลักษณะเป็นเยลลี่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ กว่า 50% ของเพื่อน ๆ ใน Pantip บอกว่า แมวทานได้ กินเหลือบ้าง แต่ไม่มาก ราคาไม่สูงมาก (ประมาณ 155 บาท/12 ซอง) เฉลี่ยซองละ 13 บาท ส่วนผสมหลัก ๆ จะเป็นปลาแมคเคอเรล กับเจล และน้ำมันถั่วเหลืองนิดหน่อย
คำประชาสัมพันธ์จากผู้ผลิต (สูตรลูกแมว)
ลูกแมวเติบโตเร็วกว่าทารกถึง 12 เท่า ดังนั้นเค้าจึงต้องการพลังงานที่เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตในช่วงนี้ ในช่วงแรกที่ลูกแมวยังกินนมแม่อยู่ จะได้รับภูมิต้านทานจากน้ำนมแม่ แต่หลังจากหย่านมแล้ว เราจึงต้องเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับเค้า อาหารแมวของวิสกัส ทำจากเนื้อปลาแท้ ๆ มีสารอาหารที่ครบถ้วน และสมดุล ช่วยพัฒนาการ และเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ลูกแมว ให้พร้อมจะต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวได้ดี
- ปริมาณต่อ 1 ซอง: 85 กรัม
- ราคาเฉลี่ยโดยประมาณ: 13 บาท (12 ซอง / 155-160 บาท)
- ปริมาณที่ให้ต่อวันกรณีกินอาหารเปียกอย่างเดียว: ประมาณ 3-4 ซองต่อวัน สำหรับลูกแมว
- ความเห็นส่วนตัว: แมวทานได้ แต่ไม่หมด Y Y กินได้เรื่อย ๆ สำหรับแมวขี้เบื่อ อาจจะใช้วิธีสลับ ๆ กับอาหารเม็ด และอาหารเปียกยี่ห้ออื่น ๆ ด้วย
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Nekko
ยี่ห้อที่ได้รับการพูดถึงมากใน Pantip เป็นอันดับต้น ๆ เลยก็คือยี่ห้อ Nekko นี่แหละค่ะ ส่วนตัวก็ซื้อยี่ห้อนี้เพราะอ่านจากใน Pantip เช่นกัน อาหารเปียกของเนกโกะ จะมีออกมาทั้งสูตรสำหรับลูกแมว และแมวโตเต็มวัย มีกลิ่นที่หอมชวนกิน สำหรับลูกแมวจะมีอยู่ 2 สูตรหลัก ๆ คือทูน่า และไก่ เนื้ออาหารจะมีลักษณะเป็นมูส ทานง่าย มีกลิ่นหอม และสำหรับแมวโต จะมีหลายสูตรและหลายรูปแบบมากกว่า ทั้งแบบเนื้อเป็นชิ้น ๆ และแบบเยลลี่ ข้อดีก็คือ มีการแจ้งอย่างชัดเจนเลยว่า ไม่มีสารกันบูด และเมื่อดูจากส่วนผสมข้างซองของอาหารเปียก Nekko จะเห็นว่า ไม่มีการใส่สารปรุงแต่งสีใด ๆ เข้าไปเลย ก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งค่ะ
ข้อแนะนำ
สำหรับสูตรแมวเด็ก สามารถให้ได้ตั้งแต่แมวอายุ 1 เดือนขึ้นไป แต่ทั้งนี้ ควรเสริมอาหารอื่น ๆ เพิ่มด้วย เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อวัน การให้อาหารควรให้แต่พอดี ถ้าแมวยังเด็กมาก อาจจะให้แค่ครั้งละครึ่งซอง ส่วนที่เหลือให้มัดจากถุง และเก็บในตู้เย็นทันที เพื่อรักษาคุณภาพของอาหารไม่ให้บูดเสีย
- ปริมาณต่อซอง: 70 กรัม
- ราคาเฉลี่ยต่อซอง: 14-17 บาท (ซื้อแบบราคาส่ง 48 ซอง 690 บาท / 96 ซอง 1345 บาท)
- ความเห็นส่วนตัว: แมวค่อนข้างชอบ กินหมดทุกครั้งที่เทให้ ตอนที่ซื้อจะซื้อแบบคละรส เพื่อให้เค้าไม่เบื่อ
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Royal Canin
Royal Canin จะมีสูตรอาหารเพื่อรักษาและประคองอาการโรคต่าง ๆ ของแมวอยู่หลายสูตร สำหรับอาหารเปียกก็เช่นกัน จะมีทั้งสูตรสำหรับแมวทั่วไป และสำหรับแมวป่วย และสูตรเพื่อบำรุงขนโดยเฉพาะ เวลาซื้ออาจจะงงนิดนึง เพราะว่ามีหลายสูตรเกิ๊น สำหรับยี่ห้อนี้ ต้องบอกว่า 50/50 แมวบางตัวก็จะโปรดปราน กินแต่ยี่ห้อนี้เลย แต่บางยี่ห้อก็เมินแบบไม่กินกันเลยทีเดียว อาหารเปียกของ royal canin นี้จะมีจุดเด่นคือมีการเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญเข้ามาในตัวอาหารด้วย ช่วยลดโอกาสในการที่แร่ธาตุจะเกาะตัวกันจนเป็นก้อนนิ่ว และนอกจากนี้จะมีการควบคุมปริมาณฟอสฟอรัสให้อยู่ในระดับพอเหมาะ เพื่อให้ไตของน้องเค้าไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปด้วย
ส่วนตัวซื้อให้ทานสลับกับอาหารเม็ดบ้าง เนื่องจากเป็นแมวอายุมาก (12 ขวบ) บางทีมีเบื่ออาหารบ้าง ก็จะซื้อ Royal Canin สูตร Instinctive 7+ สำหรับแมวสูงอายุโดยเฉพาะ มาสลับให้กินบ้าง เวลาที่เค้าดูจะเบื่ออาหารเม็ด ผลลัพธ์หลังกินถือว่าค่อนข้างดี เพราะดูจากขนที่นุ่มขึ้น ส่วนมากจะซื้อตอนลดเยอะๆหน่อย (แอบแพง)
- ปริมาณต่อซอง (อ้างอิงจากสูตรแมวโต): 85 กรัม
- ราคาเฉลี่ยต่อซอง: 27 – 30 บาท (12 ซอง 330 บาท)
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Me-O
อาหารเปียก ของ Me-O เป็นอีกยี่ห้อที่ราคาไม่แพง และแมวซัดโฮกแบบจริงจัง (จากเพื่อน ๆ ใน pantip 7/10 แมวชอบเหมือนกันค่ะ) ราคาอยู่ในระดับที่รับได้ ประมาณซองละ 15-16 บาท สำหรับสูตรอาหารเปียก จะมีทั้งสูตรสำหรับลูกแมว และแมวโต มีทั้งในแบบน้ำเกรวี่ และแบบเยลลี่ ซึ่งที่ขายดีและบางทีก็หาซื้อยากหน่อย จะเป็นสูตรของลูกแมว กับสูตรทูน่าและไก่ บางทีไปถามร้านประจำก็หมดบ่อยเหมือนกันค่ะ
- ปริมาณต่อซอง (อ้างอิงจากสูตรทูน่าและไก่ในเยลลี่): 80 กรัม
- ราคาเฉลี่ยต่อซอง: 15-16 บาท (12 ซอง 189 บาท)
- ความเห็นส่วนตัว: ยี่ห้อนี้จะซื้อติดบ้านไว้บ้างเมื่อมีโอกาส เพราะเจ้านายจะโปรดมาก ซัดเรียบ แต่จะไม่ได้ให้บ่อยมากนัก เพราะแมวกินเก่งเกิ๊นค่ะ เก็บเอาไว้เป็นรางวัล หรือเวลาง้อเค้าจะดีที่สุด ^^
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Ciao
ยี่ห้อ Ciao (เชา) จะรู้กันดีจาก “ขนมแมวเลีย” ซึ่งเป็นขนมแมวที่แค่หยิบซอง เจ้านายก็ร้องกันเกรียวแล้ว ในส่วนของอาหารเปียกแมวของ Ciao ราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ ถึงแม้ราคาต่อซองจะแค่ 12-16 บาท แต่ว่าซองนึงมีปริมาณแค่ 40 กรัมเท่านั้น (น้อยจริง 555)
หน้าตาอาหารเปียกของ Ciao จะมีลักษณะเหลว ๆ กว่าอาหารเปียกยี่ห้ออื่น หลาย ๆ คนบอกว่า รสชาติอาหารผ่าน เพราะเจ้านายกินกันเรียบ มีอยู่ประมาณ 4-5 รสชาติให้เลือก ยี่ห้อนี้จะอ่านยากนิดนึงว่าอันไหนเป็นรสไหน เพราะหน้าซองจะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ที่ซื้อบ่อย ๆ จะมี
- ซองสีเหลือง จะเป็นซุปสันในไก่และหอยเชลล์ อันนี้ซุปหอมน่ากิน
- ซองสีฟ้า จะเป็นซุปปลาทูน่าและหอยเชลล์ และมีโรยหน้าด้วยสันในไก่ เป็นเส้นเล็ก ๆ
- ซองสีชมพู เป็นซุปปลาทูน่า มากุโร่ และหอยเชล แล้วก็โรยหน้าด้วยสันในไก่เป็นเส้น ๆ
- ซองสีแดง (อันนี้น่าจะเป็นรสใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเห็น) จะเป็นซุปปลาทูน่ากับสันในไก่ และโรยหน้าด้วยปลาโอแห้ง อันนี้แมวลองแล้ว บอกว่าอร่อยเหมือนกันจ้า 555
ปริมาณต่อซอง (อ้างอิงจากซองสีเหลือง ซุปสันในไก่และหอยเชลล์): 40 กรัม
ราคาเฉลี่ยต่อซอง: 14 บาท (12 ซอง 169 บาท)
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Avoderm (แบบกระป๋อง)
สำหรับคนซื้ออาหารแมวเป็นประจำแล้ว คงจะคุ้นกับชื่อแบรนด์ Avoderm เป็นอย่างดี โดยสำหรับอาหารเปียกของ Avoderm ถ้าใครเคยซื้อคงบอกได้เลยว่า ดูคุ้มค่ามาก (แม้ราคาจะสูงก็เหอะ) เพราะตัวเนื้อ ดูสะอาด และน่าทานมาก ถ้าให้เห็นภาพก็คือ จะคล้ายกับปลาทูน่าในกระป๋องของคนดี ๆ นี่เอง มีเนื้อล้วนๆ จัดมาเต็ม ๆ ค่ะ
อาหารเปียกแมว Avoderm จะผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา รุ่นที่ซื้อมาให้ทานนั้น จะเป็นตัวกระป๋องสีเขียว สูตรบำรุงขน โดยจะเป็นสูตรที่ไม่มีการเติมธัญพืชใด ๆ เข้าไปในส่วนผสม หรือที่เรียกกันว่า อาหารสูตร Grian Free มีการเพิ่มแร่ธาตุวิตามิน ช่วยบำรุงขนและผิวหนัง มีความเค็มน้อย (เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ) ส่วนตัวแล้ว ต้องบอกว่าแมวชอบ แต่ทาสไม่ชอบเท่าไร 555 เพราะว่าราคาสูงไปนิดนึงค่ะ แต่เท่าที่ลองมาหลาย ๆ ยี่ห้อ รู้สึกว่าของ Avoderm แมวกินแล้วจะขนค่อนข้างนุ่ม และร่วงน้อยลงมาก ถ้าให้คะแนนโดยไม่สนใจราคา คงต้องขอให้ 5/5 เลยค่ะ
- ปริมาณต่อ 1 กระป๋อง (อ้างอิงจากสูตรบำรุงขน กระป๋องสีเขียวอ่อน) : 85 กรัม
- ราคาเฉลี่ยต่อกระป๋อง: 57 บาท (6 กระป๋อง 345 บาท)
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Purina Fancy Feast (แบบกระป๋อง)
อาหารเปียกแมว Fancy Feast ตัวนี้ผลิตภายใต้แบรนด์ Purina ซึ่งมีชื่อเสียงด้านอาหารเม็ดอยู่แล้ว ทั้ง Purina One และ Purina Proplan มีมาตรฐานการผลิตที่ดี และเมื่อเทียบราคากับปริมาณแล้ว ถือว่าไม่แพงจนเกินไป ที่เห็นอยู่บ่อย ๆ จะมีอยู่ 3-4 รสชาติหลัก ๆ คือสูตรเนื้อไก่ย่างในน้ำเกรวี่ (กระป๋องม่วง) สูตรเนื้อไก่บดนิ่มและชิ้นเนื้อ (กระป๋องเขียว) และสูตรคลาสสิค ที่เป็นเนื้อแซลมอนและปลาทะเล และที่เหลือก็จะเป็นสูตรสำหรับลูกแมว (Kitten)
ส่วนตัวเคยให้ลองทานอยู่ 2 รสชาติ คือไก่ย่าง (กระป๋องม่วง) กับรสคลาสสิคที่เป็นปลาทะเล รู้สึกว่าจะชอบรสปลาทะเลมากกว่านิดนึง ประมาณว่ากินเรียบไม่มีเหลือ เลียซะชามสะอาด ส่วนสูตรไก่ย่าง มีเหลือบ้างค่ะ
- ปริมาณต่อ 1 กระป๋อง: 85 กรัม
- ราคาเฉลี่ยโดยประมาณ: 33-35 บาท (12 กระป๋อง 396 บาท)
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Inaba (แบบถ้วย)
อาหารเปียกแบบคัพ ยี่ห้ออินาบะ ที่แนะนำกันจะเป็นแบบถ้วย กับแบบกระป๋อง เนื่องจากจะเป็นเนื้อในน้ำเกรวี่ ไม่ใช่เป็นเนื้อเจล ซึ่งแบบน้ำเกรวี่จะดูน่าทานกว่ามาก ราคาไม่สูงมาก กลาง ๆ พอรับได้ อาหารแมวยี่ห้อ Inaba นี้รู้จักจาก Review ของเพื่อน ๆ ใน Pantip เช่นกันค่ะ มีออกมาหลายรสชาติมาก ๆ จนเลือกกันไม่ถูกเลย แต่จากที่ลองสั่งแบบแพครวมทุกรสชาติมา เท่าที่ดม ๆ ดู (ยังไม่ได้ชิมนะ ฮา) และดูจากเนื้อสัมผัสแล้ว ดูเหมือนกันมาก จนแยกไม่ถูกเหมือนกัน ตัวอาหารเมื่อเปิดถ้วยแล้ว จะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ค่อยคาวมาก ยี่ห้อ Inaba นี้ เจ้านายได้กลิ่นแล้ว ให้คะแนน 5 ดาวเลยค่ะ เพราะกินแบบไม่พักหายใจเลย 555 (เวลาที่ซื้ออาหารมาแล้วเจ้านายกินหมดเกลี้ยง กินได้กินดี ทาสอย่างเราก็จะรู้สึกดีแบบบอกไม่ถูกจริง ๆ ฮาๆ )
- ปริมาณต่อ 1 ถ้วย: 80 กรัม
- ราคาเฉลี่ยโดยประมาณ: 27-29 บาท (12 กระป๋อง 329 บาท)
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว Sheba (แบบกระป๋อง/แบบซอง)
อาหารเปียกสำหรับแมว ยี่ห้อ Sheba ส่วนมากจะมีโปรโมชั่นออกมาอยู่บ่อย ๆ เลยมีโอกาสได้ซื้อให้บ้าง แล้วแต่จังหวะ สำหรับ Review ของเพื่อน ๆ ใน Pantip อาหารเปียกของ Sheba ส่วนใหญ่จะบอกว่าแมวชอบทาน (70/30) ราคาไม่สูงจนเกินไป ถ้าเป็นแบบซองก็ประมาณ 16-18 บาท ถ้าเป็นแบบกระป๋องราคาก็จะสูงขึ้นมา แต่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าแบบกระป๋องดูใช้วัตถุดิบดีกว่าพอสมควร
สำหรับแบบซอง รสชาติหลัก ๆ จะเป็นทูน่ายืนพื้น และก็ผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ แตกต่างกันไป เช่น ปูอัด แมคคาเรล ปลาทรายแดง ฯลฯ แต่เท่าที่สังเกต เห็นแมวกินไม่เหลือสักรสชาติเลยค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าอันไหนอร่อยกว่ากัน เวลาซื้อจะอาศัยซื้อรวม ๆ หลายรสชาติแทน กันเค้าเบื่อ
แต่แบบที่รู้สึกว่าคุ้มค่า และน้องแมวก็ชอบด้วยจะเป็นรูปแบบกระป๋อง ที่เป็นตัว Deluxe ของ Sheba โดยที่ซื้อประจำจะเป็นเนื้อในน้ำเกรวี่เป็นหลัก นานๆทีก็จะสลับเป็นแบบเยลลี่บ้าง รสที่เห็นน้องแมวชอบก็จะเป็น ทูน่าและแซลมอนในน้ำเกรวี่ กับอีกอันจะเป็นอกไก่ในน้ำเกรวี่ ทั้ง 2 รสนี้ เปิดกระป๋องมา กลิ่นหอมออกมาเลย เนื้อก็มาเป็นก้อน ๆ ซึ่งก็ถือว่าสมกับราคา แม้จะแพงไปนิด แต่ก็อยู่ในเกณฑ์พอรับได้จ้า นาน ๆ ซื้อที 555
ราคาล่าสุด
อาหารเปียกแมว (อาหารแมวกระป๋อง) VS อาหารแมวแบบเม็ด ให้แมวกินแบบไหนดี
เชื่อว่าเป็นคำถามคาใจของผู้เลี้ยงแมวหลาย ๆ ท่านอย่างแน่นอน กับปัญหาที่ว่าจะให้แมวกินอาหารเปียก หรือว่าอาหารเม็ดดี เรามาดูว่าข้อดี-ข้อเสีย ของทั้งอาหารเปียกแมว และอาหารแมวแบบเม็ดกันก่อนดีกว่าค่ะ
- อาหารเปียกแมว: มีจุดเด่นที่สุดคือ กลิ่นชวนกิน และมีปริมาณน้ำในอาหารที่เพียงพอ เรียกว่าถ้ากินอาหารเปียกวันละ 2 ซอง แมวจะได้รับปริมาณน้ำเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันแล้ว แม้ไม่ได้กินน้ำเพิ่มเลยก็ตาม
- อาหารแมวแบบเม็ด: มีจุดเด่นตรงปริมาณสารอาหาร ที่มีการทดสอบและออกแบบมาเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการสารอาหารทั้งหมดของแมว ในแต่ละวัน มีการเพิ่มวิตามินและเกลือแร่สำคัญต่าง ๆ ที่แมวไม่สามารถสร้างเองได้ (ตามกฎของ AAFCO หรือหน่วยงานที่ควบคุมในเรื่องอาหารสัตว์ของอเมริกา) ทำให้แมวได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ มีภูมิต้านทานโรคดี
โดยสรุปแล้ว ทั้งอาหารเปียกแมว และอาหารแมวแบบเม็ดนั้น ต่างมีจุดเด่นที่อีกฝ่ายไม่มี เช่น อาหารแมวแบบเม็ด มีความน่าทานน้อยกว่า กลิ่นชวนกินน้อยกว่า รวมถึงถ้าแมวกินน้ำน้อย ก็อาจจะทำให้เสี่ยงโรคไตได้ง่าย ๆ แต่อาหารเปียกก็จะมาชดเชยตรงจุดนี้ได้ ในทางกลับกัน ถ้าให้ทานอาหารเปียกอย่างเดียว ก็อาจจะทำให้แมวขาดสารอาหารบางอย่าง รวมถึงทำให้แมวมีปัญหาเรื่องพัฒนาการของฟัน และปัญหาในช่องปากอื่น ๆ ได้ด้วย เพราะไม่ได้เคี้ยวของแข็ง กัดแทะ ตามธรรมชาติของเค้า
ในจุดนี้จึงสามารถสรุปได้ว่า ผู้เลี้ยงสามารถให้ทั้งอาหารเปียก และอาหารแบบเม็ด สลับกันไป เพราะจะช่วยทำให้เค้าไม่เบื่ออาหาร รวมถึงได้รับน้ำ และสารอาหารที่ครบถ้วน ทำให้มีการเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่ดีอีกด้วย
อย่าเสียดายอาหารเปียกที่แมวกินเหลือ
อาหารเปียกแมว ไม่ว่าจะเป็นแบบกระป๋อง หรือแบบซองก็ตาม ถ้ามีปริมาณมาก ควรเลือกที่จะเอาช้อนสะอาดตักแบ่งใส่ชามอาหารแมว ส่วนที่ยังอยู่ในกระป๋อง/ในซอง เราสามารถใส่กล่อง เก็บแช่ตู้เย็น ไว้ทานต่อในวันรุ่งขึ้นได้ ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ว่าถ้าเกิดเราให้อาหารลงชามมากเกินไป แล้วน้องแมวกินเหลือล่ะก็ ต้องจำใจทิ้งสถานเดียวเลยนะคะ อย่าเอากลับมาแช่เย็นแล้วเอาไปให้น้องเค้ากินซ้ำอีก ถึงแม้ว่าจะเป็นแช่ตอนเช้า กินตอนเย็นก็ตาม เพราะอาหารเปียกสำหรับแมว บูดง่ายมาก และน้ำลายของแมวเองก็มีแบคทีเรียอยู่มากมาย ดังนั้นเราจึงไม่ควรเสียดายอาหารที่เหลือ เอากลับมาให้กินซ้ำอย่างเด็ดขาด อาหารแมวที่เหลือถ้าคิดเป็นมูลค่าอาจจะไม่ถึง 10 บาท แต่ถ้าเค้าเกิดท้องเสียขึ้นมาทีนึง ปวดหัวกันหลายวันเลยนะคะ
Q: ให้แมวกินอาหารเปียกอย่างเดียวได้ไหม?
ปัญหาของเหล่าทาสที่ให้อาหารเปียกตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วน้องแมวไม่ยอมกินอาหารเม็ดเลย จะเจอได้บ่อยมาก ๆ ถ้าพูดถึงข้อเสียของการให้อาหารเปียกอย่างเดียว ก็มีอยู่เหมือนกันนะคะ คือถ้าจะให้อาหารเปียกจนเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันของแมวแล้ว เราจะต้องให้กินหลายซอง หรือหลายกระป๋องมาก ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านอาหารสูงกว่าการให้อาหารแบบเม็ด นอกจากนี้ส่วนมาก ถ้าให้อาหารเปียกอย่างเดียว แมวจะดูไม่ค่อยโต (เว้นแต่ให้อาหารเปียกยี่ห้อดี ๆ ซึ่งก็มีราคาสูงมากตามไปด้วย) และข้อเสียอีกอย่างก็คือ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพวกโรคเหงือกอักเสบของน้องเค้าได้ด้วย เนื่องจากหินปูนในอาหารเปียกมีสูงกว่าแบบเม็ด
Q: ทำยังไงดี เมื่อแมวไม่ยอมกินอาหารเม็ด
ส่วนตัวแล้ว เคยลองใช้มาหลายวิธี ทั้งผสมอาหารเม็ดกับอาหารเปียก แล้วคลุก ๆ รวมกัน อันนี้เค้าเหมือนเด็กเขี่ยผักอะค่ะ กินแต่อาหารเปียกเกลี้ยง แล้วแยกอาหารเม็ดไว้ให้เราเสร็จสรรพ 555 สุดท้ายจึงใช้วิธีหักดิบไปเลย เทอาหารเม็ดทิ้งไว้ เท่าที่จำได้ คือ 2 วันแรก เค้าแค่เดินมาดม ๆ แล้วก็กินแค่เม็ดสองเม็ด แต่พอรู้ว่าเราไม่ให้อาหารเปียกแน่แล้ว เค้าก็จะกินเองค่ะ ทุกวันนี้ก็กินอาหารเม็ดเป็นหลัก และก็ให้อาหารเปียกสลับบ้าง ตามโอกาสและทุนทรัพย์จะเอื้ออำนวย ฮา..
อีกวิธีหนึ่งที่มีเพื่อน ๆ แนะนำกันเยอะ แต่เราไม่ได้ลองทำ ก็คือ การเอาอาหารเม็ดมาแช่น้ำให้นุ่มๆ แล้วจากนั้นเอาอาหารเม็ดไปผสมกับอาหารเปียก ในปริมาณอย่างละครึ่ง เพื่อให้เค้าชินกลิ่นกับอาหารเม็ดก่อน แล้วค่อยลดอาหารเปียก เป็นอาหารเม็ดแช่น้ำแทน และขั้นสุดท้ายค่อยให้อาหารเม็ดแบบเพียวๆไปเลย
ข้อดีของการฝึกให้แมวทานอาหารเม็ดอีกอย่างก็คือ จะทำให้ถ่ายไม่เหลว เหมือนกับตอนที่ให้อาหารเปียกอย่างเดียว และอาหารเม็ดยังมีสารอาหารสำคัญอื่น ๆ และมีคุณค่าทางอาหารที่จำเป็นต่อแมว เยอะกว่าอาหารแมวแบบเปียกด้วย
Q: เก็บลูกแมวแรกเกิดมาเลี้ยง ให้กินนมวัวได้ไหม?
ในระยะแรกลูกแมวจะกินนมแม่เป็นหลัก ถ้าเก็บลูกแมวมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ในระยะแรกอาจจะให้นมแพะ ต้องระวังว่าอย่าเอานมวัว นมตราหมี นมข้นหวานผสมน้ำ นมผง ฯลฯ ให้ทานเด็ดขาดนะคะ ต้องทราบเลยว่า ลูกแมวจะกินได้แต่นมของแม่แมว กับนมแพะ เท่านั้น ซึ่งระบบน้ำย่อยของแมว เค้าจะไม่สามารถที่จะย่อยนมวัว หรือนมชนิดอื่น ๆ ได้ ซึ่งเมื่อกินนมวัวไปแล้ว จะทำให้เค้าท้องอืด ท้องเสีย และในกรณีร้ายแรง อาจจะทำให้น้องเค้าตายได้เลยนะคะ
เดี๋ยวนี้เราสามารถหาซื้อนมแพะได้ง่ายมาก มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ ดังนั้นถ้าวันนึงเผอิญไปเจอลูกแมวหลงเข้า เราสามารถช่วยชีวิตเค้าได้อย่างง่าย ๆ เลยนะคะ ในระยะแรกเค้าจะกินบ่อยหน่อย อาจจะให้นมแพะสัก 3-4 ชั่วโมงครั้ง และพอผ่านช่วง 1 เดือนแรกไปแล้ว ก็หมดปัญหาแล้วค่ะ เราก็เริ่มให้อาหารเปียกแมว หรือเป็นพวกปลาต้ม ไก่ต้ม ก็ได้เลย
Q: ลูกแมวอายุกี่เดือน ถึงจะเริ่มเปลี่ยนจากอาหารเปียกมาเป็นอาหารเม็ดได้?
ตามหลักก็คือเมื่อฟันเค้าขึ้น และฟันแข็งแรงพอ ซึ่งแต่ละตัวอาจจะแตกต่างกันไป แต่ส่วนมากแล้วจะอยู่ในช่วงอายุ 3-4 เดือน เราก็สามารถซื้ออาหารเม็ดสำหรับลูกแมว หรือที่เขียนต่อจากสูตรว่า Kitten เช่น Royal Canin Kitten ซึ่งอาหารเม็ดสำหรับแมวเด็ก จะมีขนาดที่เล็กและเคี้ยวง่ายกว่าของแมวโต อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาการอย่างครบถ้วนด้วย แต่ที่สำคัญก็คือ เมื่อเปลี่ยนมาให้อาหารแบบเม็ดแล้ว ควรจะดูแลเรื่องน้ำ ให้น้องเค้าได้กินน้ำในปริมาณที่เพียงพอด้วยนะคะ เพื่อป้องกันปัญหาของโรคไตในอนาคตด้วย