เสื่อโยคะ
โยคะ เป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างประหยัดกว่ากีฬาอื่น ๆ หลายประเภท เพราะแค่เพียง “เสื่อโยคะ” ผืนเดียว ก็สามารถเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยโยคะได้แล้ว
เสื่อโยคะสำหรับผู้เริ่มต้น
เสื่อโยคะที่นิยมใช้ในบ้านเรา จะมีประมาณ 3 ประเภท ซึ่งก็แน่นอนค่ะว่า ยิ่งแพงมันก็ยิ่งดีขึ้น แต่สำหรับผู้เริ่มต้นฝึกโยคะแล้ว จะขอแนะนำแค่ 2 ประเภทแรก เพราะราคาไม่ได้แพงจนเกินไป และสามารถทำท่าโยคะพื้นฐานได้อย่างไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
รู้จักกับเสื่อโยคะทั้ง 3 ประเภทก่อนตัดสินใจซื้อ
1. เสื่อโยคะแบบ PVC กับ NBR
เป็นเสื่อโยคะที่ทำจากพลาสติก PVC กลิ่นพลาสติกจะผันแปรไปตามเกรดที่ร้านนั้น ๆ ใช้ เป็นเสื่อโยคะที่วางขายกันทั่วไป ตามวัสสัน บิ๊กซี ฯ ซึ่งข้อเสียคือ มันยุบตัว เวลาเอาเข่าหรือข้อศอกไปกดก็จะมีเจ็บศอกเจ็บเข่ากันนิดนึงค่ะ ส่วนแบบ NBR จะเป็นเสื่อผลิตจากยางธรรมชาติ ใช้ได้ดีกว่าแบบ PVC พอสมควร
2. เสื่อโยคะแบบ TPE
เสื่อโยคะแบบ TPE เป็นเสื่อโยคะที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นแรก และเป็นเสื่อโยคะที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับผู้ฝึกเล่นโยคะถึงระดับกลาง (ถ้างบถึง) มีน้ำหนักเบา คืนตัวได้ดี มีความหนึบยึดเกาะดีกว่าแบบ PVC ทำให้เวลาเล่นโยคะไม่ต้องกลัวลื่น มั่นใจเวลาฝึก
3. เสื่อโยคะแบบยางพารา
เป็นเสื่อที่ผู้ฝึกโยคะในระดับกลาง – สูงนิยมใช้กัน เป็นเสื่อที่ทำจากยางพารา จะมีความหนัก เวลาพกพาอาจจะลำบากสักหน่อย บางคนจะเลือกเสื่อโยคะยางพาราไว้ประจำบ้าน เวลาออกไปเรียนก็ใช้ TPE แทน เพราะเบาสบายกว่า
เสื่อโยคะยี่ห้อไหนดี – เสื่อโยคะ 6 ยี่ห้อ ที่ผู้ฝึกเล่นโยคะนิยมใช้
1 เสื่อโยคะงบไม่เกิน 300 บาท: PROMARK เสื่อโยคะ 6 mm.
- วัสดุที่ใช้ผลิต: PVC
- ความหนาของเสื่อโยคะ: 6 มิลลิเมตร
- ความยาวของเสื่อโยคะ: 172 เซนติเมตร
- น้ำหนัก: 1 กิโลกรัม
เป็นเสื่อโยคะรุ่นประหยัดที่เป็นที่นิยมของผู้เริ่มต้นฝึก โดยที่ไม่อยากลงทุนมาก โดยวัสดุที่ใช้ทำเสื่อโยคะรุ่นนี้จะเป็น PVC หนา 6 มม. ซึ่งอาจจะไม่ได้มีความทนทานมากนัก แต่ก็สามารถใช้งานในระดับเบื้องต้นได้ดี
2 เสื่อโยคะงบไม่เกิน 300 บาท: Esportmarts เสื่อโยคะ หนา 10 มิล
- วัสดุที่ใช้ผลิต: NBR (ยางผสม)
- ความหนาของเสื่อโยคะ: 10 มิลลิเมตร
- ความยาวของเสื่อโยคะ: 185 เซนติเมตร
สำหรับงบประมาณที่จำกัด เสื่อโยคะของ esportmarts ตัวนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในระดับต้น ๆ เลย เพราะตัวเสื่อโยคะหนาถึง 10 มิลลิเมตร หรือก็คือ 1 เซนติเมตร ซึ่งถ้าผู้เล่นน้ำหนักตัวไม่มากแล้ว รับรองว่าไม่เจ็บเข่าแน่นอน ตัวเสื่อมีการกันลื่นได้ในระดับที่ดีพอสมควร แถมความยาว 185 เซน คนตัวสูงก็ใช้งานได้สบาย ๆ
3 เสื่อโยคะงบ 300-400 บาท: Yifun เสื่อโยคะ หนา 10 มิล ⭐⭐⭐⭐⭐
- วัสดุที่ใช้ผลิต: NBR
- ความหนาของเสื่อโยคะ: 10 มิลลิเมตร
- ความยาวของเสื่อโยคะ: 183 เซนติเมตร
เสื่อโยคะของ Yifun เป็นเสื่อโยคะอีกตัวที่น่าสนใจในช่วงราคานี้ เพราะตัวเสื่อโยคะหนาถึง 10 mm ถ้าผู้ฝึกโยคะน้ำหนักตัวไม่มากนัก ความหนา 10 mm ก็จะเพียงพอให้จุดที่รับแรงกระแทกอย่างข้อศอก หรือหัวเข่า ไม่เจ็บ ซึ่งจะดีกว่าเสื่อที่เราซื้อตามซุปเปอร์สโตร์ที่หนาแค่ 6 mm ซึ่งแค่เอาหัวเข่าลง ก็ถึงพื้นแล้ว
4 คุ้มค่าในราคา 500 : เสื่อโยคะ TPE หนา 8 mm.
- วัสดุที่ใช้ผลิต: TPE
- ความหนาของเสื่อโยคะ: 8 มิลลิเมตร
- ความยาวของเสื่อโยคะ: 183 เซนติเมตร
เสื่อโยคะที่ใช้วัสดุ TPE ในการทำ จะสามารถรับแรงกด แรงกระแทกได้ดีกว่าแบบ PVC อยู่พอสมควร ทำให้เวลาเล่นโยคะหรือบริหารร่างกายในท่าที่ต้องใช้ศอกหรือเข่ารับน้ำหนัก จะไม่เจ็บเหมือนแบบ PVC นอกจากนี้ TPE จะมีความเหนียวนุ่ม และทนทานมากกว่าด้วย
5 เสื่อโยคะ TPE กันน้ำ : HomeFitTools หนา 6 mm. ⭐⭐⭐⭐⭐
- วัสดุที่ใช้ผลิต: TPE
- ความหนาของเสื่อโยคะ: 6 มิลลิเมตร
- ความยาวของเสื่อโยคะ: 183 เซนติเมตร
เสื่อโยคะ TPE อย่างดี กันน้ำได้ เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ทำให้หมดปัญหาเรื่องกลิ่นอับ หรือเชื้อแบคทีเรีย ลดแรงกระแทกได้ดีถึงแม้จะหนา 6 mm แต่ด้วยวัสดุ TPE ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเซลปิด ทำให้นอกจากจะกันน้ำได้แล้ว ยังมีความหนานุ่ม รองรับแรงกดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ถ้าใครเริ่มเล่นโยคะแล้วพอมีงบสักนิด เสื่อโยคะตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
6 ที่สุดของเสื่อโยคะ : เสื่อโยคะ Manduka รุ่น prolite
- วัสดุที่ใช้ผลิต: ยางธรรมชาติ 100%
- ความหนาของเสื่อโยคะ: 5 มิลลิเมตร
- ความยาวของเสื่อโยคะ: 71 นิ้ว หรือประมาณ 180 cm
เสื่อโยคะในตำนาน รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ผู้เล่นโยคะชั้นครูนิยมใช้กัน โดยมีจุดเด่นคือสามารถรับแรงกดทับ ช่วยเซฟเข่าและศอก รวมถึงศีรษะของเราได้เป็นอย่างดี แม้น้ำหนักมากก็ไม่รู้สึกเจ็บเหมือนเสื่อโยคะทั่วไป มีน้ำหนักประมาณ 1.8 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเบา พกพาได้สะดวก การดูแลรักษาง่าย อายุการใช้งานยาว โดยรวมแล้วถ้าใครงบถึง ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ
เสื่อโยคะในปัจจุบัน ได้มีการผลิตออกมาด้วยวัสดุต่าง ๆ กัน หลายเกรดให้เลือกซื้อ โดยที่นิยมในปัจจุบันจะเป็นเสื่อโยคะที่ผลิตจาก TPE Foam ซึ่งจะทำจากยางเทอร์โมพลาสติก ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี และไม่ทราบว่าเพราะเหตุอะไร เสื่อโยคะแบบ TPE นั้น มีความนุ่มและช่วยทำให้ไม่ค่อยเจ็บเวลาเล่นโยคะ ได้ดีกว่าเสื่อโยคะแบบ PVC มาก ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่บางกว่าก็ตาม ซึ่งในทุกวันนี้ เสื่อโยคะแบบ TPE จะทำมาหนาขึ้น ประมาณ 6-8 มิลลิเมตร (แล้วแต่ราคาด้วย)
ประโยชน์ของการฝึกโยคะ
โยคะเป็นการออกกำลังกายที่สามารถเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย การเล่นโยคะทำให้เส้นต่าง ๆ ในร่างกายมีความยืดหยุ่น สำหรับหนุ่มสาว จะทำให้มีบุคลิกภาพที่ดี มีผิวพรรณที่ดี ส่วนสำหรับผู้สูงอายุจะทำให้เส้นสายภายในร่างกายไม่ยึดติด ไม่เป็นโรคปวดหลัง และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายดี ไม่ค่อยเจ็บป่วย ระบบเผาผลาญในร่างกายก็ดี ซึ่งคุณประโยชน์ของการฝึกโยคะนั้นมีมากมายจริง ๆ และอุปกรณ์ที่ใช้นั้น ก็ไม่ได้แพงหรือฟุ่มเฟือยอะไรมากด้วย จึงถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีีที่สุดอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
1. ช่วยป้องกันโรคปวดหลัง
โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันนี้ ที่เหล่าคนทำงานต่างใช้เวลาหน้าคอมเกินกว่าวันละ 8 ชั่วโมงด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่า โรคปวดหลังจะแวะมาหาตั้งแต่วัย 30 ต้น ๆ มีประสบการณ์จากเพื่อน ๆ หลายคนที่เล่นโยคะแล้วบอกลาจากโรคปวดหลังได้ภายในไม่กี่เดือน ซึ่งดีกว่ายาหรือหมอนวดแขนงไหน ๆ จริง ๆ
2. มีการยืดหยุ่นของร่างกายดี ไม่เป็นโรคข้อติด
โรคปวดข้อต่าง ๆ ในร่างกาย เป็นหนึ่งในโรคออฟฟิศซินโดรมที่คนรุ่นใหม่นิยมเป็นกันมากที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งทำงาน หรือนั่งดูทีวี มักจะมีปัญหาเวลาลุกจะยืน ลุกก็โอ้ย นั่งก็โอ้ย การฝึกโยคะจะทำให้การไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกายเป็นไปอย่างสะดวก เส้นตรงไหนที่ติดก็ค่อย ๆผ่อนไป เมื่อเลือดไหลเวียนได้สะดวกแล้ว อาการปวดก็จะบรรเทาลง และมีโอกาสที่จะหายได้ ซึ่งนับเป็นคุณประโยชน์อย่างหนึ่งของโยคะเลยทีเดียว
3. ทำให้ลดโอกาสการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาอื่น ๆ
การเล่นกีฬาโดยไม่วอร์มหรือยืดเหยียดร่างกายเลย เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บของการเล่นกีฬาได้ การเล่นโยคะจะช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นที่ดี ระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกายสะดวก ทำให้เวลาเล่นกีฬา รวมถึงการเล่นเวท ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ หรือกล้ามเนื้ออักเสบได้มาก
4. ฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี
การฝึกโยคะอาสนะ จะเน้นให้เรารู้สึกถึงร่างกายส่วนที่เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ อยู่ตลอดเวลา เปรียบแล้วก็เหมือนกับการนั่งสมาธิดี ๆ นี่เอง การที่สมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่คิดวอกแวกไปเรื่อยอื่น จดจ่ออยู่กับลมหายใจและท่าทางที่เคลื่อนไหวนั้น จะทำให้ผู้ฝึกมีสมาธิที่ดี การเรียน การทำงานดีขึ้น ส่วนในผู้สูงอายุก็ช่วยโรควิตกกังวล รวมถึงอัลไซเมอร์ได้ด้วย
5. คลายเครียด
“จิตใจที่แจ่มใส่ ย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง” การออกกำลังกายด้วยการฝึกโยคะนั้น จะทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ท่าโยคะหลาย ๆ ท่าจะช่วยให้กล้ามเนื้อแขน ขา แข็งแรงขึ้นทีละน้อย รวมทั้งการจดจ่อกับลมหายใจเข้าออกอยู่ตลอดห้วงการฝึกโยคะแล้วด้วยนั้น ย่อมทำให้คลายความทุกข์ ความเครียดลงไปได้ เมื่อปฏิบัติไปนาน ๆ จะพบว่า ร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้น รวมทั้งจิตใจก็ยังสดใสเบิกบานขึ้นอีกด้วย
6. บุคลิกภาพดี
การฝึกโยคะ จะทำให้ความยืดหยุ่นของเส้นและกล้ามเนื้อในร่างกายดี รวมทั้งกระดูกสันหลังก็จะค่อย ๆ ถูกปรับให้อยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง ตามที่ควรจะเป็นไปทีละน้อย สังเกตุได้ว่า ผู้ที่ฝึกโยคะอยู่เป็นประจำ แม้จะอายุมากแล้ว หลังก็ยังไม่โค้งงอ เดินเหินยังกระฉับกระเฉง เรียกว่าถ้าเทียบคนอายุรุ่นเดียวกันแล้ว คนฝึกโยคะดูหนุ่มกว่า สาวกว่าอยู่มากเลย
วิธีการเลือกเสื่อโยคะให้เหมาะกับคุณ
1. งบประมาณ
เสื่อโยคะมีหลายเกรดมาก ๆ โดยเสื่อโยคะแบรนด์ดังอย่าง Lululemon หรือ manduka ราคาก็จะกระโดดไปถึงสองพันถึงสามพันบาทกันเลยก็มี แต่สำหรับผู้ที่เริ่มฝึกโยคะ คงต้องขอแนะนำว่า ถ้าไม่ได้อยู่กับโยคะวันละหลาย ๆ ชั่วโมง ก็อาจจะไม่ต้องไปถึงขนาดนั้นก็ได้
งบประมาณในการซื้อเสื่อโยคะช่วงที่แนะนำคือประมาณ 300 – 1,000 บาท โดยในระดับราคา 3-400 นั้นจะเลือกใช้เป็นวัสดุแบบ PVC ส่วนในราคาแถว ๆ 600 ถึง 1,000 นั้น จะได้เป็นเสื่อโยคะแบบ TPE ซึ่งตรงนี้ถ้าเพิ่งจะเริ่มเล่น อาจจะเลือกแบบประหยัดหน่อย คือแบบ PVC แต่ให้มีความหนาสัก 8-10 มิลลิเมตร ก็พอที่เริ่มได้แล้ว
2. วัสดุ
เสื่อโยคะปัจจุบันมีหลายแบบ แต่ที่นิยมใช้กันจริง ๆ จะมีแค่ 2 แบบ ก็คือแบบพลาสติก PVC ถ้านึกไม่ออก ก็คือเสื่อโยคะที่เราเห็นเค้าขายกันม้วนละ 200-400 บาท นั่นเอง ซึ่งจะเป็นเสื่อโยคะแบบมาตรฐาน เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกเล่นโยคะ หรือยังลังเลว่าจะเล่นโยคะดีไหม เพราะราคาไม่แพง มีความนุ่มพอสมควร
และแบบที่ 2 คือแบบ TPE ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าเสื่อโยคะแบบ PVC แต่จะได้คุณสมบัติที่นุ่มกว่า เจ็บเข่าน้อยกว่า สามารถใช้ออกกำลังท่าแพลงกิ้งได้ โดยที่ข้อศอกไม่เจ็บเหมือนกับเสื่อโยคะแบบ PVC
เสื่อโยคะอีกประเภทหนึ่งที่ใช้งานได้ดี แต่มีราคาที่ค่อนข้างสูง ก็คือเสื่อโยคะที่ทำจากยางพารา ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะที่ดี ความนุ่มสูง แต่ราคาก็จะค่อยข้างแพง คือเฉียด ๆ 2 พันบาท ซึ่งถ้าสำหรับผู้เล่นโยคระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นเสื่อโยคะแบบยางพารา แค่เพียงเสื่อโยคะแบบ PVE ก็เพียงพอแล้วค่ะ
3. การยึดเกาะพื้น กันลื่นได้ดีไหม
เสื่อโยคะที่เป็นเกรดดีหน่อย จะมีการยึดเกาะพื้นผิวได้ดี มีความหนึบ ทำให้เวลาเล่นโยคะแล้วรู้สึกได้ว่าปลอดภัย ไม่ลื่น ไม่เขยื้อนไปไหน ซึ่งเสื่อโยคะแบบ TPE จะมีการยึดเกาะที่ค่อนข้างจะดีกว่าเสื่อโยคะแบบ PVC อยู่พอสมควร
4. ความยาว
ถ้าผู้ฝึกตัวสูง ควรจะพิจารณาความยาวของเสื่อโยคะที่จะซื้อด้วย ซึ่งความยาวมาตรฐานที่นิยมใช้กันก็คือ 183 เซนติเมตร กว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ซึ่งจะเป็นขนาดที่พอดีและเหมาะสมที่สุด
5. ความหนาของเสื่อโยคะ
สำหรับวัสดุที่เป็น PVC ความหนาของเสื่อโยคะควรจะหนาประมาณ 6 – 10 มิลลิเมตร เพราะ PVC เป็นพลาสติกที่กดแล้วยุบ ยวบ ดังนั้นจึงควรเลือกแบบหนาแน่นไว้ก่อน แต่ถ้าเป็นเสื่อโยคะแบบ TPE หรือเสื่อโยคะแบบยางพารา ถึงแม้จะมีความหนา 5-6 มิลลิเมตร แต่ว่าสามารถรองรับแรงกดได้ดีกว่า ทำให้ไม่ยวบ และไม่เจ็บเข่า เจ็บศีรษะเวลาฝึกโยคะ