กระเป๋าสตางค์ผู้ชายราคาถูก ใบละไม่เกิน 300 บาท และ 500 บาท
กระเป๋าสตางค์สำหรับผู้ชายราคาถูก มีทั้งหนัง pu และหนังแท้ โดยสิ่งที่ควรทราบเล็กน้อยเกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์ที่เป็นหนัง pu หรือหนังเทียม ก็คือ กระเป๋าที่ทำจากหนัง pu ไม่ใช่ว่าคุณภาพจะไม่ดีอย่างไร หนัง pu นั้น จะมีความนุ่ม และคงทน ใกล้เคียงกับหนังแท้อยู่ในระดับหนึ่งเลย ที่สำคัญคือมีราคาที่ไม่แพง เปลี่ยนตามแฟชั่นได้บ่อย และการใช้กระเป๋าสตางค์ที่เป็นหนังเทียมแบบนี้ ก็จะได้ความสบายใจตรงที่ไม่ต้องใช้หนังของสัตว์มาทำ ทางต่างประเทศเดี๋ยวนี้ก็นิยมใช้เครื่องหนังต่าง ๆ ที่เป็นหนังเทียมกันมากขึ้นเช่นกัน
กระเป๋าสตางค์ผู้ชาย ราคาใบละไม่เกิน 300 บาท
กระเป๋าสตางค์ผู้ชาย ราคาใบละ 300 – 500 บาท
tag: กระเป๋าสตางค์ผู้ชาย ราคาถูก กระเป๋าสตางค์ชาย ราคาไม่เกิน 300 บาท ราคา 300-500 บาท กระเป๋าสตางค์ผู้ชายทรงยาว 2018
สารพันความเชื่อว่าด้วย กระเป๋าสตางค์ รู้ไว้ได้ประโยชน์
อยากมีเงินมากๆ ต้องขยันเก็บออม เพื่อสร้างอนาคตที่มีความมั่นคงและมั่งมีด้วยตนเองตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ถ้าเราชอบใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย หรือที่เรียกว่า ใช้เงินเหมือนกระเป๋าสตางค์รั่ว หาได้เท่าไรจ่ายออกไปเท่านั้น หลายคนก็จะมีเทคนิคในการเลือกซื้อกระเป๋าสตางค์ โดยอาศัยหลักทางโหราศาสตร์เข้ามาช่วยด้วย โดยเชื่อว่า จะทำให้การเก็บออมเงินอยู่หมัดดีขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังเพิ่มความเฮง ความรวย ช่วยให้เงินทองไหลมาเทมา ซึ่งก็ถือว่าเป็นวิธีดีๆที่น่าศึกษาไม่น้อย เพราะทำตามแล้วก็ไม่เสียหาย แถมยังมีโอกาสเพิ่มโชคเข้ามาให้กับตนเองด้วย จริงไหมคะ? มาดูกันดีกว่า ว่าความเชื่อในเรื่องของกระเป๋าสตางค์และความร่ำรวยของประเทศไทยที่ผ่านมา มีแบบไหนที่น่าสนใจและน่าลองทำตามกันบ้าง
1. เลขมงคลกับช่องเก็บเงินในกระเป๋าสตางค์
กระเป๋าสตางค์มีให้เลือกอยู่หลากหลายแบบ ทั้งแบบพับแนวตั้ง พับแนวนอน มีทั้งกระเป๋าขนาดเล็ก กระเป๋าสตางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในเรื่อง แบบ ของกระเป๋าสตางค์นั้น ก็มักจะเลือกซื้อตามลักษณะการใช้งาน และตามความพึงพอใจเป็นหลัก แต่จะมุ่งเน้นไปที่การเลือกกระเป๋าสตางค์ที่มีช่องในกระเป๋า รวมแล้วให้ได้ 8-9 ช่อง เพราะเชื่อกันว่า เลข 8 และ เลข 9 นั้น เป็นเลขมงคลเสริมดวง ซึ่งเลข 8 จะหมายถึงความรุ่งเรืองร่ำรวย ส่วนเลข 9 ก็จะหมายถึงโชคลาภวาสนาและความสำเร็จ แต่ถ้ากระเป๋าสตางค์ที่คุณ ๆ ถูกใจนั้น มีช่องมากกว่า 9 ช่อง ก็จะใช้วิธีเลือกใส่เงินเพียง 9 ช่องแทนก็ใช้ได้ ส่วนช่องที่เหลือ ก็ให้ปล่อยไว้ว่าง ๆ ไม่ต้องใส่อะไรลงไป
2. กระเป๋าสตางค์ขาด เงินทองรั่วไหลง่าย
ความเชื่อในเรื่องของกระเป๋าสตางค์เสริมดวง ที่มักจะถือกันมาตลอดก็คือ อย่าใช้กระเป๋าสตางค์ที่หลุดลุ่ยหรือฉีกขาด ถึงจะรักและใช้งานกันมานาน ก็ต้องหักใจ มองหากระเป๋าสตางค์คู่ใจใบใหม่มาแทน เพราะนอกจากในเรื่องของเคล็ดที่กระเป๋าชำรุดจัดว่าไม่เป็นมงคล อาจส่งผลให้เงินทองรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่ แล้ว ในความจริง ก็อาจจะทำให้เงิน หรือเหรียญตกออกจากกระเป๋าไปได้ด้วย นอกเหนือจากนี้ควรดูแลตัวกระเป๋าให้สะอาด จัดระเบียบแบงค์ให้หยิบใช้ง่าย โดยเชื่อว่า จะช่วยให้โชคด้านการเงินเพิ่มขึ้น ความเชื่ออีกอย่างก็คือ พยายามเลี่ยงการใช้กระเป๋าสตางค์มือสอง เว้นแต่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ของเจ้านาย ที่มีตำแหน่งสูงและร่ำรวย คนสมัยก่อน มักจะชอบขอ กระเป๋าเงินใบเก่าของเจ้านายที่ยังมีสภาพดูดี มาใช้เสริมดวงเรา ซึ่งก็ถือเป็นเคล็ดอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยนิยมใช้กัน
3. พยายามเก็บเงินขวัญถุงติดกระเป๋าไว้เสมอ อย่าปล่อยให้กระเป๋าสตางค์ว่างเปล่า
ถึงแม้ทุกวันนี้เงินเดือนน้อยนิด ใช้เงินแบบเดือนชนเดือนเป็นประจำ เรื่องเงินเก็บออมไว้ไม่ต้องพูดถึงจ้า แค่มีเงินพอใช้ให้ครบเดือนก็หนักหนาสาหัสแล้ว แต่ว่าอย่างน้อยควรจะเก็บเงินขวัญถุงไว้ในกระเป๋าสตางค์ไว้นิดนึงก็ยังดี จำนวนมากหรือน้อยไม่สำคัญ โดยเงินที่นิยมเป็นเงินขวัญถุงนั้น มักจะเป็นเงินจากซองอั่งเปา หรือเงินจากงานมงคลต่างๆ เก็บเอาไว้ให้เป็น “เงินขวัญถุง” ด้วยความเชื่อว่าจะนำโชคดี ทำให้กระเป๋าตุงเต็มตลอดเวลา มีเงินใช้ไม่ขาด ความเชื่อเรื่องเงินขวัญถุงติดกระเป๋าสตางค์นั้น เชื่อกันว่า ทำให้ทำกิจการอะไรก็รุ่งเรือง ทำให้เงินทองไหลมาเทมา โชคลาภมีอย่างไม่ว่างเว้น เงินขวัญถุงมักเก็บเงินจำนวนไม่มาก อาศัยว่าเป็นเงินมงคล บางคนก็จะนิยมเก็บเงินขวัญถุงที่พ่อแม่ให้ติดตัวไว้ ก็ทำให้เวลาหยิบมาดูแล้ว มีแรงใจต่อสู้กับงาน และกัดฟันฝ่าฟันไปได้อย่างไม่หมดหวัง
4. พับธนบัตรเป็นรูป “ฮู้”
การเก็บเงินขวัญถุง พกติดตัวไว้ในกระเป๋าเงิน ไม่ใช่ว่าจะใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์เฉยๆ เลยนะคะ โดยมากจะนำมาพับเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายยันต์ของจีนที่เรียกกันว่า “ฮู้” ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นเครื่องรางของขลัง มีคุณด้านให้โชคลาภ เรียกทรัพย์สมบัติเข้ากระเป๋า พับแล้วก็อย่าลืมตั้งจิตอธิษฐานขอพรเป็นกำลังใจให้ขยันทำมาหากิน เพื่อให้อนาคตมีเงินทองไหลมาเทมากันไม่ขาดระยะ
5. อย่าอัดบัตรต่างๆ ไว้จนกระเป๋าสตางค์ตุง
หลายๆคนมักจะเก็บทั้งนามบัตร บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัตรส่วนลดตามร้านอาหาร และยังมีบัตรต่างๆ ใส่กระเป๋าสตางค์ไว้เต็มไปหมด ตามหลักความเชื่อแล้ว กระเป๋าสตางค์จะต้องเก็บสตางค์อย่างเดียว หากใส่บัตรต่างๆ ไว้แน่น จะทำให้เก็บเงินไม่อยู่ และเงินไม่ไหลเข้า เคยสังเกตุไหมคะว่า หลาย ๆ คนที่เชื่อเรื่องนี้ มักมีกระเป๋าเก็บบัตรอีก 1 ใบ เพื่อนำมาใช้เก็บบัตรที่ต้องพกติดกระเป๋าต่าง ๆ เช่น บัตรประชาชน บัตรพนักงาน ซึ่งวิธีนี้ ก็ยังเป็นการช่วยจัดระเบียบของใช้ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย หยิบใช้สะดวก หาง่าย ไม่ปะปนกันด้วย
6. แยกกระเป๋าใส่เหรียญไว้ต่างหาก
เรื่องเกี่ยวกับเศษเหรียญนั้น ก็มีความเชื่อที่เกี่ยวกับเงินเหรียญเช่นเดียวกัน โดยจะไม่นิยมใส่เศษเหรียญรวมไว้ในกระเป๋าสตางค์ เพราะเชื่อว่า จะไปสกัดธนบัตรไม่ให้ไหลเข้ากระเป๋า ซึ่งในกระเป๋าสตางค์นั้น นอกจากธนบัตรแล้ว ก็ควรเลือกที่จะพกเครื่องรางประจำตัว ไว้เป็นของขลังช่วยดูดทรัพย์ให้ไหลเข้ามาดีกว่า การเลือกพกธนบัตรเป็นเงินขวัญถุง ที่เหมาะกับปีนักษัตรก็ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยจะเป็นการพกธนบัตรตามปีนักษัตรของไทย โดยแต่ละปีก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ปีชวด ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 7
- ปีฉลู ธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 2
- ปีขาล เลือกพกธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 5
- ปีเถาะ ธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 6
- ปีมะโรง เลือกพกธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 3
- ปีมะเส็ง ธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 4
- ปีมะแม เลือกพกธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 1
- ปีมะเมีย ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 6
- ปีวอก เลือกพกธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 4
- ปีระกา ธนบัตร 50 บาทลงท้ายด้วยเลข 9
- ปีจอ ธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 0
- ปีกุน เลือกพกธนบัตร 50 บาทลงท้ายด้วยเลข 4
7. กระเป๋าสตางค์ที่ดีควรมีซิปให้เก็บเงินอยู่
กระเป๋าสตางค์ที่ดีควรจะมีซิปช่วยให้เก็บเงินอยู่ หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ ช่วยเก็บเงินทองของมีค่าให้ปลอดภัย ไม่ตกหายง่ายนั่นเอง