กระเป๋าสตางค์สีส้ม สีส้มอิฐ แบบยาว – แบบสั้น
กระเป๋าสตางค์สีส้มสำหรับผู้หญิง และผู้ชาย – สีส้ม เป็นสีที่ช่วยพลังด้านความสดชื่น ผู้ที่นิยมกระเป๋าสตางค์สีส้ม มักเป็นผู้มองโลกในแง่ดี ชอบรักความสนุก ถ้าเป็นคุณผู้ชายก็มักจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ในทางโหราศาสตร์แล้ว สีส้ม จะช่วยเรื่องโชคลาภ และความสำเร็จทางด้านหน้าที่การงาน สำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันศุกร์ โดยสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบกระเป๋าสตางค์ที่เป็นหนังแท้ หนังเทียม หรือแบบผ้า มีซิปหรือไม่มีซิป ก็ได้เช่นกัน
Tag: กระเป๋าสตางค์สีส้ม ผู้ชาย ผู้หญิง มีซิป สีส้มอิฐ กระเป๋าสตางค์เสริมดวง วันจันทร์ วันอังคาร และวันศุกร์
สารพันความเชื่อสำหรับ กระเป๋าสตางค์ รู้ไว้ไม่เสียหาย
ถ้าอยากจะมีเงินมาก ก็ต้องขยันเก็บออม เพื่อสร้างอนาคตที่มีความมั่นคงและมั่งคั่งด้วยตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ถ้าเราใช้เงินเกินมือ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ใช้เงินเหมือนกับกระเป๋าสตางค์รั่ว หาได้เท่าไรก็จ่ายออกไปเท่านั้น หลายๆคนก็จะมีเทคนิคในการเลือกซื้อกระเป๋าสตางค์ โดยอาศัยหลักการทางโหราศาสตร์เข้ามาช่วยด้วย โดยเชื่อกันว่า จะทำให้การเก็บออมเงินอยู่มือดีขึ้นกว่าเก่า อีกทั้งยังเพิ่มความเฮง ความรวย ช่วยให้เงินทองไหลมาเทมา ซึ่งก็ถือเป็นเคล็ดลับที่น่าศึกษาไม่น้อย เพราะทำตามแล้วก็ไม่เสียหาย อีกทั้งยังมีโอกาสเพิ่มโชคเข้ามาให้กับตนเองด้วย จริงไหมคะ? มาดูกันดีกว่า ว่าความเชื่อในเรื่องของกระเป๋าสตางค์และความร่ำรวยของประเทศไทยที่ผ่านมา มีวิธีไหนน่าสนใจและน่าลองเก็บไปทำตามกันบ้าง
1. เลขมงคลกับช่องในกระเป๋าสตางค์
กระเป๋าสตางค์มีให้เลือกอยู่หลากหลายแบบ ทั้งแบบพับแนวตั้ง พับแนวนอน มีทั้งกระเป๋าขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ซึ่งในเรื่อง แบบ ของกระเป๋าสตางค์นั้น ก็มักจะเลือกซื้อตามลักษณะการใช้งาน และตามรสนิยมเป็นหลัก แต่จะมุ่งเน้นไปที่การเลือกกระเป๋าสตางค์ที่มีช่องเก็บเงินในกระเป๋า รวมแล้วให้ได้ 8-9 ช่อง เพราะเชื่อว่า เลข 8 และ เลข 9 เป็นเลขมงคลเสริมดวง โดยเลข 8 จะหมายถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ส่วนเลข 9 ก็จะหมายถึงโชคลาภวาสนาและความสำเร็จ แต่ถ้ากระเป๋าที่คุณ ๆ ถูกใจ มีช่องใส่ธนบัตรหรือเหรียญมากกว่า 9 ช่อง ก็จะใช้วิธีเลือกใส่เงินหรือใส่ของทั้งหมดเพียง 9 ช่องแบบนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนช่องที่เหลือ ก็ให้ปล่อยไว้ว่าง ๆ ไม่ต้องใส่อะไรลงไปเลย
2. กระเป๋าสตางค์ขาด เงินทองไหลออกง่าย ไม่ดี
ความเชื่อในเรื่องของกระเป๋าสตางค์เสริมดวง ที่มักถือกันมาตลอดก็คือ พยายามอย่าใช้กระเป๋าสตางค์ที่หลุดลุ่ยหรือฉีกขาด ถึงจะรักและใช้งานกันมานาน ก็ต้องตัดใจ มองหากระเป๋าสตางค์คู่ใจใหม่มาแทน เพราะนอกจากในเรื่องของเคล็ดที่กระเป๋าชำรุดถือว่าไม่เป็นมงคล อาจส่งผลให้เงินทองรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่ แล้ว ในความเป็นจริง ก็อาจทำให้เงิน หรือเหรียญตกออกจากกระเป๋าไปได้ด้วย นอกจากนี้ก็ควรดูแลตัวกระเป๋าให้สะอาด จัดระเบียบธนบัตรให้หยิบใช้ง่าย โดยเชื่อว่า จะช่วยให้มีโชคด้านการเงินเพิ่มขึ้น ความเชื่ออีกอย่างก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้กระเป๋าสตางค์มือสอง นอกจากจะเป็นกระเป๋าสตางค์ของเจ้านาย ที่มีตำแหน่งสูงและร่ำรวย คนสมัยก่อน มักจะชอบขอ กระเป๋าเงินใบเก่าที่ยังดูดีอยู่ นำมาใช้เสริมดวงเรา ซึ่งก็ถือเป็นเคล็ดอย่างหนึ่งที่คนไทยชอบใช้กัน
3. เก็บเงินขวัญถุงติดกระเป๋าสตางค์ไว้เสมอ ไม่ปล่อยให้กระเป๋าสตางค์ว่างเปล่า
ถึงแม้ทุกวันนี้เงินเดือนจะน้อยนิด ใช้เงินแบบเดือนชนเดือนเป็นประจำ เรื่องเงินเก็บออมไว้ไม่ต้องพูดถึง แค่มีเงินพอใช้ให้ครบเดือนก็หนักหนาสาหัสแล้ว แต่ว่าอย่างน้อยก็ควรเก็บเงินขวัญถุงไว้ในกระเป๋าสตางค์ไว้บ้าง จำนวนมากหรือน้อยไม่สำคัญ โดยเงินที่นิยมใช้เป็นเงินขวัญถุงนั้น มักจะใช้เงินจากซองอั่งเปา หรือเงินจากงานมงคลต่างๆ เก็บเอาไว้ให้เป็น “เงินขวัญถุง” ด้วยความเชื่อว่าจะนำโชคดี ทำให้กระเป๋าตุงอยู่ตลอดเวลา มีเงินใช้ไม่ขาด ความเชื่อเรื่องเงินขวัญถุงติดกระเป๋านั้น เชื่อกันว่า ทำให้ทำกิจการอะไรก็รุ่งเรือง ทำให้เงินทองไหลมาเทมา โชคลาภมีอย่างต่อเนื่อง เงินขวัญถุงมักเก็บเงินจำนวนไม่มาก อาศัยว่าเป็นเงินมงคล บางคนก็จะนิยมเก็บเงินขวัญถุงที่พ่อแม่ให้ติดตัวไว้ ก็ทำให้เวลาดูแล้ว มีแรงใจต่อสู้กับงาน และกัดฟันฝ่าฟันไปได้อย่างไม่สิ้นหวัง
4. พับธนบัตรเป็นรูป “ฮู้”
การเก็บเงินขวัญถุง พกติดตัวไว้ในกระเป๋าเงิน ไม่ใช่ว่าจะใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์เฉยๆ เลยนะคะ ส่วนมากจะนำมาพับเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายยันต์ของชาวจีนที่เรียกกันว่า “ฮู้” ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นเครื่องรางของขลัง มีคุณด้านให้โชคลาภ เรียกทรัพย์สมบัติเข้ากระเป๋า อย่าลืมตั้งจิตอธิษฐานขอพรเป็นกำลังใจให้ขยันทำมาหากิน เพื่อให้อนาคตมีเงินทองไหลมาเทมากันไม่ขาดระยะ
5. อย่าใส่บัตรต่างๆ ไว้จนกระเป๋าสตางค์ตุง
หลายคนเก็บนามบัตร บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัตรส่วนลดตามร้านอาหาร และยังมีบัตรต่างๆ ใส่กระเป๋าสตางค์ไว้เต็มไปหมด ซึ่งตามหลักความเชื่อแล้ว กระเป๋าสตางค์จะต้องเอาไว้เก็บเงินอย่างเดียว หากเอาไปใส่บัตรต่างๆ ไว้แน่น จะทำให้เก็บเงินไม่อยู่ และเงินก็จะไม่ไหลเข้า เคยสังเกตุไหมคะว่า หลาย ๆ คนที่เชื่อเรื่องนี้ มักจะมีกระเป๋าเก็บบัตรอีก 1 ใบ เพื่อนำมาใช้เก็บบัตรที่ต้องพกติดกระเป๋าต่าง ๆ เช่น บัตรประชาชน บัตรพนักงาน ซึ่งวิธีนี้ ก็ยังเป็นการช่วยกำหนดระเบียบจัดเก็บของใช้จำเป้นต่าง ๆ ให้เรียบร้อย หยิบใช้สะดวก หาง่าย ไม่ปะปนกันด้วย
6. แยกกระเป๋าสำหรับใส่เหรียญไว้ต่างหาก
เรื่องเกี่ยวกับเศษเหรียญนั้น ก็มีความเชื่อที่เกี่ยวกับเงินเหรียญเช่นกัน โดยไม่นิยมใส่เหรียญรวมไว้ในกระเป๋าสตางค์ด้วยกัน เพราะเชื่อว่า จะไปสกัดธนบัตรไม่ให้ไหลเข้ากระเป๋า ซึ่งในกระเป๋าเงินนั้น นอกจากธนบัตรแล้ว ก็ควรเลือกที่จะพกเครื่องรางประจำตัว ไว้เป็นของขลังช่วยดูดทรัพย์ดีกว่า การเลือกพกธนบัตรเป็นเงินขวัญถุง ที่เหมาะกับปีนักษัตรก็ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยจะเป็นการพกธนบัตรตามปีนักษัตรของไทยเรา โดยแต่ละปีก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ปีชวด เลือกพกธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 7
- ปีฉลู ธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 2
- ปีขาล ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 5
- ปีเถาะ เลือกพกธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 6
- ปีมะโรง ธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 3
- ปีมะเส็ง ธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 4
- ปีมะแม เลือกพกธนบัตร 50 บาท ลงท้ายด้วยเลข 1
- ปีมะเมีย ธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 6
- ปีวอก เลือกพกธนบัตร 20 บาท ลงท้ายด้วยเลข 4
- ปีระกา ธนบัตร 50 บาทลงท้ายด้วยเลข 9
- ปีจอ ธนบัตร 100 บาท ลงท้ายด้วยเลข 0
- ปีกุน ธนบัตร 50 บาทลงท้ายด้วยเลข 4
7. กระเป๋าสตางค์ควรจะมีซิปให้เก็บเงินอยู่
กระเป๋าสตางค์ควรจะมีซิปช่วยให้เก็บเงินอยู่ หรืออีกแง่หนึ่งก็คือ ช่วยเก็บเงินทองรวมถึงของมีค่าให้ปลอดภัย ไม่ตกหล่นง่ายนั่นเอง