เทียบราคา เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S เครื่องฟอกอากาศที่ขายดีที่สุดในปี 2023
Xiaomi Mi Air Purifier 2S ราคาเท่าไร?
ราคาที่ถูกที่สุด ที่มีของพร้อมจัดส่ง
“เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5” กลายเป็นคำค้นหายอดฮิต ในปี 2023 ไปแล้ว ซึ่งเกิดจากในประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งการเลือกใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ จึงเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยปกป้องคุณจากฝุ่นละอองในบ้านได้ดีที่สุด นอกจากนี้เวลาออกจากบ้าน ในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองมากเช่นนี้ ก็ต้องอย่าลืมหน้ากาก N95 มาสวมใส่ เพื่อป้องกันมลพิษ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งหอบหืด ภูมิแพ้ รวมถึงพิษภัยจากฝุ่นละเอียดอีกมากมาย
หนึ่งในเครื่องฟอกอากาศใช้ดี ที่มีคนซื้อมากที่สุดในปี 2023 นี้ คงต้องยกให้กับ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S ซึ่งเป็นเครื่องฟอกอากาศรุ่นล่าสุด ที่ทาง Xiaomi ได้นำเข้ามาขายในประเทศไทย แถมยังมาพร้อมกับราคาที่ไม่แรง ไม่ชาร์จ ในช่วงสถานการณ์คับขันเช่นนี้อีกด้วย
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S
ก่อนหน้านี้ ทาง Xiaomi ได้มีเครื่องฟอกอากาศจำหน่ายมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว โดยในรุ่น 2S ตัวนี้ จะพิเศษกว่าเดิม ตรงที่จะมีหน้าจอ OLED ซึ่งจะบอกสถานะของเครื่องฟอกอากาศ และจะบอกถึงสภาวะอากาศในห้อง ณ เวลานั้น ๆ
ค่าต่าง ๆ ที่เครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 2S สามารถอ่านได้ ก็จะเป็นในส่วนของ อุณหภูมิ ค่าความชื้น ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ว่าปัจจุบันมีอยู่เท่าไร
เครื่องฟอกอากาศที่สามารถบอกค่าความชื้นในห้องได้
นอกจากการอ่านค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้แล้ว ที่น่าสนใจก็คือ การบอกค่าความชื้นในห้อง ซึ่งตรงนี้จะเหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือจมูกแห้ง หรือคนที่แพ้ไรฝุ่นเป็นพิเศษ เพราะว่า สาเหตุหนึ่งของภูมิแพ้ ก็มาจากไรฝุ่น และความชื้นที่มากเกินไป ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าคนทั่วไปไม่มีโอกาสที่จะทราบได้เลยว่า ในห้องเรามีความชื้นมากเกินไปหรือน้อยเกินไปกันแน่ นอกจากบ้านที่มีความชื้นหนักหน่อย ก็อาจจะเห็นพวกรา ขึ้นตาฝ้า หรือผนังวอลเปเปอร์เท่านั้น
และนอกจากนี้ หลายท่านอาจจะไม่เคยทราบเลยว่า ไรฝุ่นจะเจริญเติบโตได้ดี ในห้องที่มีความชื้นมากกว่า 60% ดังนั้นแล้ว สำหรับคนเป็นภูมิแพ้ หรือบ้านที่มีลูกเล็ก ๆ สิ่งหนึ่งที่ควรลองตรวจสอบก็คือ ค่าความชื้นในห้องนั่นเอง ซึ่งถ้ามันมากเกินไป ก็อาจจะแก้ไขได้โดยการเลือกใช้เครื่องลดความชื้น มาช่วยในเรื่องนี้ในภายหลัง และนี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมฟังก์ชั่นวัดความชื้น ที่ติดมากับเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S จึงน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ทำไม Xiaomi Mi Air Purifier 2S ถึงได้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว
ความคุ้มค่าสูง ไม่กั๊กสเปค
ถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์จาก Xiaomi ซึ่งไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม ก็จะมีการใส่เทคโนโลยีเด็ด ๆ เข้าไป เสปคค่อนข้างจะสูงกว่าคู่แข่งในท้องตลาด ในราคาที่เท่ากัน เรื่องฟอกอากาศ Air Purifier 2S ตัวนี้ก็เช่นเดียวกัน สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ ความสามารถในการกรองฝุ่น CADR (อัตราการทำให้อากาศบริสุทธิ์) สูงถึง 310 ลบ.ม/ชม ฯ ซึ่งค่อนข้างจะฉีกกับคู่แข่ง แม้กระทั่งแบรนด์เจ้าตลาดอย่าง Sharp ไปได้อยู่พอสมควรเลยทีเดียว
ลดฝุ่น 2.5 ได้ภายในเวลาไม่นาน
สำหรับ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S ตัวนี้ จะเหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ประมาณ 21-37 ตารางเมตร หรือห้องขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีที่สุด
ด้วยค่า CADR ที่มีถึง 310 ลบ.ม/ชม. ทำให้สามารถปรับสภาพอากาศ ลดฝุ่นละออง PM2.5 ให้กับห้องขนาด 21-37 ตารางเมตร ได้ภายในเวลา 10-30 นาทีเท่านั้น ซึ่งค่าฝุ่นละออง ก็มีจะมีการโชว์ผ่านทางหน้าจอ OLED แบบเรียลไทม์อีกด้วย
เชื่อมต่อ wi-fi สั่งให้เปิดทำงานได้ แม้ตัวยังไม่ถึงบ้าน
ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi และสามารถสั่งการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่น Mi Home ผ่านทางสมาร์ทโฟนได้นั้น ทำให้มีประโยชน์ในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศตัวนี้เป็นอย่างมาก
ตัวอย่างเช่น อีกประมาณ 30 นาทีคุณกำลังจะถึงบ้าน ก็เพียงเปิดแอพ และกดให้เครื่องฟอกอากาศทำงาน เพียงเท่านี้ ตัวเครื่องฟอกอากาศก็จะเริ่มทำงาน ฟอกอากาศบริสุทธิ์รอคุณกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S ตัวนี้อีกด้วย
ไส้กรองทรงกระบอก 3 ชั้น
สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่ง ของเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S ก็คือส่วนของไส้กรอง ที่จะให้อากาศที่รู้สึกได้ว่า บริสุทธิ์มากกว่าเครื่องฟอกอากาศยี่ห้ออื่น สำหรับส่วนตัวแล้ว มีเครื่องฟอกอากาศ Sharp อยู่ที่บ้านอยู่แล้ว แต่พอได้ใช้งาน Xiaomi Mi Air Purifier 2S จะรู้สึกว่า อากาศค่อนข้างบริสุทธิ์กว่า รู้สึกถึงความสะอาด มากกว่า Sharp แต่อากาศจาก Sharp จะรู้สึกสดชื่นมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นเพราะประจุบวก ที่เป็นฟังก์ชั่นของทาง Sharp นั่นเอง
- ชั้นนอกสุด กรองฝุ่นทั่วไป ฝุ่นละอองขนาดใหญ่
- ชั้นกลาง Hepa Filter ใช้เทคโนโลยี H11 จากประเทศญี่ปุ่น กรองฝุ่นขนาดเล็กระดับไมครอนได้ กรองฝุ่น PM2.5 ช่วยดักจับแบคทีเรีย
- ชั้นในสุดเป็น Carbon Filter ที่มีความสามารถในการกำจัดกลิ่น แก๊ส หรือสารพิษต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ลดกลิ่นอับ กลิ่นบุหรี่ ฯ
อะไหล่ไส้กรอง ที่สามารถหาเปลี่ยนได้ง่าย และราคาไม่สูง
ปกติแล้ว เวลาซื้อเครื่องฟอกอากาศ สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงด้วย คือตัวไส้กรอง หลาย ๆ ยี่ห้อ เมื่อเปลี่ยนรุ่น จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรง และขนาดของไส้กรองก็เปลี่ยนไป ทำให้หาซื้อได้ยาก แต่สำหรับ Xiaomi แล้ว ไส้กรองรูปทรงกลม สามารถใช้แทนกันได้กับเครื่องฟอกอากาศทุกรุ่นของ Xiaomi ทำให้ไม่ต้องกลัวว่า ในอนาคตจะหาซื้อไส้กรองอากาศยาก หรือจะหาซื้อไม่ได้
โดยราคาของไส้กรองอากาศ จะอยู่ที่ประมาณ 800-1100 บาท แต่ละตัวจะมีอายุการใช้งานอยู่ประมาณ 4,000 ชั่วโมง ซึ่งถ้านับเฉพาะเปิดนอน วันละ 10 ชั่วโมง ก็จะใช้งานได้ถึง 400 ชั่วโมง หรือมากกว่า 1 ปีเลยทีเดียว
ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องไปจดจำระยะเวลาที่ใช้งานเครื่องฟอกอากาศแต่อย่างใด ตัวเครื่องจะมีการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ เมื่อไส้กรองถึงกำหนดเปลี่ยน และถึงแม้ว่าจะยังไม่เปลี่ยนไส้กรอง เครื่องก็ยังสามารถทำงานได้ตามเดิมอีกด้วย
Xiaomi Mi Air Purifier 2S หาซื้อได้ที่ไหน ราคาเท่าไร ที่ไหนถูกที่สุด
ก่อนหน้า ในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะฝุ่นละอองเกินมาตรฐานใหม่ ๆ เครื่องฟอกอากาศ เรียกได้ว่าเป็นแรร์ไอเท็มกันเลยก็ว่าได้ ราคาที่เคยขายอยู่ 4 พัน ขยับตัวไปถึง 7-8000 บาท อีกทั้งยังหาซื้อได้ยาก มาแป้บเดียวของหมด ณ เวลานั้น แม้แต่ Lazada Shopee หรืออีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ ๆ ในไทย ก็ไม่สามารถหาของมาให้เพียงพอกับความต้องการได้
ในภายหลัง เมื่อผู้ผลิตเร่งผลิตเครื่องฟอกอากาศออกมาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การหาซื้อเครื่องฟอกอากาศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และราคาก็กลับเข้ามาสู่สภาวะปกติอีกครั้งหนึ่ง
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S ถือได้ว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูงมาก ดังนั้นจึงสามารถหาซื้อและตรวจสอบเช็คราคาและโปรโมชั่นส่วนลด ได้จากทั้งเว็บไซต์ Lazada Shopee Jd.co.th Shopat24 โดยเฉพาะจาก Lazada ที่จะมีโปรโมชั่น ส่วนลดอยู่บ่อยครั้ง ราคาจะอยู่ประมาณ 3800-4200 บาท โดยประมาณ
ผลการสำรวจราคาจากร้านค้าออนไลน์รายใหญ่: ราคาที่ถูกที่สุด ของ เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S จะอยู่ที่ร้านค้า Lazada ซึ่งถูกที่สุดที่หาได้จะอยู่ที่ 3800 บาท (ช่วง Flash Sale) และจัดส่งฟรี รองมาคือ Shopee ซึ่งราคาต่ำสุดที่เจอคือ 4,200 บาท แต่จะมีค่าจัดส่งอีกประมาณ 90 บาท ซึ่งก็ถือว่าต่างจาก lazada ไม่มากเท่าไรนัก ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้น ๆ ด้วย
- ShopAt24 – ราคา 4,990 บาท
- Shopee – ราคา 4,200-5,500 บาท+ ค่าส่ง
- Lazada – ราคา 4,000-4,900 บาท >>>
- Jd.co.th – ราคา 4,490 บาท
xiaomi mi air purifier 2s vs pro
“อย่าลืมเลือกเครื่องฟอกอากาศให้พอดีกับขนาดของห้อง”
สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างหนึ่งเลยก็คือ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศ ที่เหมาะสมกับพื้นที่ มีหลายคนที่บอกว่า เครื่องฟอกอากาศใช้ไม่ได้ผล นั่นเพราะว่า ซื้อตัวเล็ก แต่ไปใช้กับห้องนอนใหญ่ แบบนี้ยังไงก็คงไม่ได้เห็นผลจนรู้สึกได้อย่างแน่นอน
สำหรับเครื่องฟอกอากาศ ภายในแบรนด์ Xiaomi ตอนนี้ ในบ้านเราจะนิยมอยู่ 2 รุ่น ก็คือ
- Xiaomi Mi Air Purifier 2S จะเหมาะกับพื้นที่ประมาณ 21-37 ตารางเมตร หรือเทียบอย่างง่าย คือสามารถใช้กับห้องนอนขนาดเล็ก หรือกลางแบบสบาย ๆ
- xiaomi mi air purifier pro จะเหมาะกับพื้นที่ 35-60 ตารางเมตร ซึ่งตัวนี้จะมีราคาสูงกว่ารุ่น 2S ประมาณ 2,000 บาท แต่ก็จะมีกำลังที่มากขึ้น สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้รวดเร็วขึ้นกว่ารุ่น 2S เหมาะสำหรับห้องนอนใหญ่ ส่วนเรื่องเชื่อมต่อ Wi-Fi แอพลลิเคชั่น ก็จะเหมือนกันกับรุ่น 2S เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ ทั้ง 2 รุ่น จะใช้ไส้กรองรุ่นเดียวกัน สามารถซื้อมาใส่ทดแทนกันได้ โดยคุณสมบัติหลัก ๆ ของทั้ง 2 รุ่น จะค่อนข้างที่จะเหมือนกันแทบทั้งหมด แตกต่างเพียงเรื่องของกำลังแรงลม ที่ตัว Pro จะมีกำลังมอเตอร์ที่มากกว่า เหมาะกับห้องขนาดใหญ่กว่า
ดังนั้นแล้ว สำหรับคนที่จะนำเครื่องฟอกอากาศไปใช้ในห้องนอนใหญ่ ขนาดประมาณ 30 ตารางเมตรขึ้นไป และพอมีงบประมาณอยู่บ้าง การเลือกซื้อเป็นรุ่น Pro ไปใช้งาน ก็จะเหมาะสมมากกว่า แต่ถ้าใช้ในห้องนอนเล็ก ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มเงินไปถึงรุ่น Pro เลย
ซื้อเครื่องฟอกอากาศดีไหม เมื่อสถานการณ์ฝุ่นกำลังจะเบาบางลง
หลายท่านอาจไม่ทราบว่า ค่าฝุ่นละอองในหลายพื้นที่ของประเทศไทย อยู่ในระดับค่อนข้างสูง มาตั้งนานแล้ว สำหรับคนอยู่ในคอนโดในเมืองใหญ่ๆ ที่มีปริมาณรถติดมาก จะทราบดีว่า ถึงแม้จะปิดหน้าต่าง ประตูทั้งหมดแล้ว ก็ยังมีฝุ่นละเอียดเข้ามาในห้องมาก พื้นห้องจะเหนียว เช็ดแล้วเป็นคราบดำๆ หรือตามชานเมือง ที่มีการเผาฟาง เผาเศษพืชผลทางการเกษตร ก็มีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศสูงเช่นเดียวกัน
และถ้ามองจากนโยบายและวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นละอองของทางภาครัฐ ที่ในอนาคตก็คงไม่ได้มีวิธีการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองที่ดีกว่าเดิมสักเท่าไรแล้ว จึงเชื่อได้ว่า เราเองก็ยังมีโอกาสที่จะต้องเผชิญภาวะฝุ่นละอองเกินมาตรฐานอยู่เรื่อย ๆ อย่างแน่นอน
ดังนั้นในช่วงที่ราคาเครื่องฟอกอากาศลดลงมาเช่นนี้ ก็ต้องบอกว่า คุ้มค่า น่าใช้งานกันพอสมควรเลย เพราะอย่างน้อย ถึงแม้จะไม่ได้เจอ PM2.5 แต่ก็ช่วยลดฝุ่นในอากาศในห้องนอน ทำให้อากาศสะอาดขึ้น หรือสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ตื่นมาคัดจมูกบ่อยอยู่ด้วยแล้ว เชื่อว่าคงได้เปิดใช้งานกันทุกวันอย่างแน่นอน
“เครื่องฟอกอากาศ” ในปัจจุบัน ถือได้ว่ามีการพัฒนามาจากเมื่อสมัย 5-10 ปีก่อนมาเยอะมาก เชื่อว่าหลาย ๆ บ้านน่าจะเคยมีเครื่องฟอกอากาศรุ่นเก่า ๆ ที่ถึงจะเปิดหรือปิด ก็ไม่เห็นถึงความแตกต่าง หรือไม่เคยรับรู้ความีตัวตนอยู่ของมันเลยก็ว่าได้ แต่ในปัจจุบัน ต้องยอมรับเลยว่า การมีเครื่องฟอกอากาศดี ๆ สักตัวอยู่ในห้องนอน ช่วยให้อุ่นใจขึ้นมาก อากาศที่สูดเข้าไปนั้น มีความบริสุทธิ์สดชื่นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าซื้อมาแล้วเห็นความแตกต่างได้ชัด ในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กในประเทศไทยมากมายอย่างเช่นทุกวันนี้แล้ว เครื่องฟอกอากาศแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรากันไปแล้ว
การลงทุนเพื่อรักษาสุขภาพ นับได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเสมอ และจากส่วนตัวที่ได้ทดลองใช้งานมาประมาณ 2 สัปดาห์ บอกได้เลยว่า xiaomi mi air purifier 2s มันเจ๋งสมคำร่ำลือจิม ๆ