ถึงเวลาที่เราควรถนอมสายตากันหรือยัง?
คุณเคยมีอาการอย่างนี้กันบ้างไหมคะ “ปวดเบ้าตา แสบตา กระพริบตาบ่อยมาก ตาไม่สู้แสง ขับรถยามค่ำคืนก็มองเห็นไม่ค่อยดี ต้องเพ่งมากขึ้น ทำงานจ้องคอมได้ไม่ถึงชั่วโมงก็แสบตา หลอดน้ำตาเทียมเต็มออฟฟิศ ฯ”
เชื่อว่ากว่า 80% ของมนุษย์ทำงานออฟฟิศ รวมทั้งผู้ที่ต้องทำงานจ้องคอมอยู่เป็นประจำ และยังแอบรวมไปถึงคนที่ชอบเล่นเกมมือถือต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน คงจะคุ้นเคยกับอาการข้างต้นเป็นอย่างดี
เป็นที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบันนี้ ชีวิตของคนยุคดิจิตอลอย่างเรา ๆ นั้น ผูกติดกับจอคอมพิวเตอร์หน้าจอมือถือทั้งวัน จะได้พักสายตาก็แค่ตอนนอนหลับเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้สายตาของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน เกิดปัญหาได้เร็วขึ้นมาก ในระยะเริ่มต้นอาจจะมีเพียงแค่อาการปวดตา ตาแห้ง ตาล้า แต่เมื่อใช้สายตาอย่างต่อเนื่องต่อไป ไม่พักสายตา หรือถนอมสายตาให้ดี ก็อาจจะเริ่มมีอาการปวดหัว ปวดเบ้าตามากขึ้น ซึ่งหลายคนก็มักจะใช้น้ำตาเทียม เป็นตัวช่วยที่ทำให้หายตาแห้ง แต่ก็เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากเรายังฝืนใช้สายตามากเหมือนเดิม อาการก็จะแย่ลงไปเรื่อย ๆ อีกด้วย
“จากการสำรวจพบว่าผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เกินกว่าวันละ 2 ชั่วโมงขึ้นไป จะมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับทางสายตาก่อนวัยอันควรมากขึ้น”
วันนี้เราจึงได้นำวิธีถนอมสายตาดี ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องใช้สายตามาก ทำงานกับคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพื่อที่จะได้รักษาการมองเห็น ให้อยู่กับเราไปจนแก่กันเลยนะคะ
1 พักสายตา
การถนอมสายตาที่สุดคือการพักสายตา เราไม่สามารถเลี่ยงจากการทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ได้ แต่ก็ควรที่จะพักสายตา ทุก 1 ชั่วโมง โดยมองออกไปไกล ๆ เพื่อให้ดวงตาได้โฟกัสไปที่ไกลบ้าง เหมือนกับเป็นการบริหารดวงตาไปในตัว มองออกไปที่ต้นไม้ สีเขียวบ้าง ครั้งละ 3-5 นาที
นอกจากนี้ยังสามารถบริหารการโฟกัสของสายตา ได้โดยการมองไปที่ไกล ประมาณ 10 ถึง 20 วินาที จากนั้นก็กลับมามองสิ่งของในระยะใกล้ อีก 10 ถึง 20 วินาทีเช่นเดียวกัน ทำอย่างนี้สลับไปมาซัก 5 เซ็ท ก็จะเป็นการบริหารสายตา คลายความเมื่อยล้าจากการทำงานได้
2 ละสายตาจากหน้าจอคอมหรือหน้าจอมือถือให้ได้เกินวันละ 2-3 ชั่วโมง
ไม่ว่าสายตาของคุณจะเมื่อยล้าด้วยสาเหตุจากการทำงาน หรือจากการเล่นเกมมือถือนานเกินไปก็ตาม หากคุณมีอาการสายตาล้า ปวดเบ้าตา ตาแห้งมาก สิ่งหนึ่งที่ควรจะทำก็คือ การพักสายตา โดยในแต่ละวันนั้น นอกจากเวลานอนแล้ว ควรจะมีเวลาที่ไม่จ้องจอมือถือหรือจอคอมพิวเตอร์ให้ได้วันละ 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป อาจจะออกไปออกกำลังกายกับเพื่อน ทำอาหาร ทำงานบ้าน ปลูกผักทำสวน หางานอดิเรกทำ ซึ่งจะช่วยคลายความเมื่อยล้าของดวงตาได้เป็นอย่างดี
3 กระพริบตาบ่อยขึ้น
หลายคนที่ทำงานหน้าจอคอมอยู่ตลอดเวลา มักจะมีอาการตาแห้ง ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการเพ่งจอคอมไม่กระพริบตาเป็นเวลานาน ซึ่งบางคน ใน 1 นาทีอาจจะกระพริบตาเพียงแค่ 6-8 ครั้งเท่านั้น การกระพริบตา จะทำให้ฟิล์มน้ำตาที่อยู่ด้านในของเปลือกตา กระจายมาเคลือบทั่วด้านหน้าของดวงตา เป็นการทำให้ดวงตาชุ่มชื้น เหมือนกับเป็นสารหล่อลื่นดวงตาจากธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเรากระพริบตาน้อยลง ตาก็จะแห้งมากขึ้น นอกจากจะพยายามกระพริบตาให้บ่อยขึ้นแล้ว การใช้น้ำตาเทียมหยอดตา ก็จะช่วยลดอาการตาแห้งและระคายเคืองตาได้ด้วย
4 เลือกใช้โคมไฟอ่านหนังสือ
โคมไฟอ่านหนังสือที่เราเห็นกันตั้งแต่ตอนเด็ก นอกจากจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการอ่านหนังสือแล้ว ยังสามารถใช้ส่องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสงไฟจากโคมไฟอ่านหนังสือนี้ จะมีส่วนช่วยในการถนอมสายตา ทำให้สายตาล้าน้อยลงได้เป็นอย่างดี
5 วางตำแหน่งของคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
ท่านั่งใช้คอมพิวเตอร์ นอกจากจะช่วยลดปัญหาการปวดหลังจากการทำงานอย่างต่อเนื่องแล้ว การจัดระยะห่างระหว่างจอภาพกับผู้นั่ง ให้ห่างประมาณ 50 ถึง 70 cm นั่งหลังตรง ให้จอภาพอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเพียงเล็กน้อย ก็ยังเป็นการช่วยถนอมสายตาได้อีกทางหนึ่งด้วย
6 ระวังเรื่องแสงสะท้อน ปรับเปลี่ยนตำแหน่งคอมพิวเตอร์
การตั้งจอคอมพิวเตอร์ใกล้กับหน้าต่าง จะต้องระวังในเรื่องของแสงสะท้อนหรือการมองย้อนแสง ถ้าเรานั่งมองจอคอมภายใต้ฉากหลังที่เป็นดวงอาทิตย์อยู่ตลอดยามบ่าย แน่นอนว่าย่อมส่งผลทำให้สายตาล้ามากขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ไฟส่องสว่างบนเพดาน ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งที่จะแยงตาเราอีกเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์ ตำแหน่งการจัดวางจอคอม หรือปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการทำงาน จึงเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยถนอมสายตาของคุณอีกทางหนึ่ง
7 อย่าเพ่งตัวอักษรเล็ก ๆ มากเกินไป เปิดใช้งาน 2-3 จอเมื่อจำเป็น
ไม่ว่าจะเป็นการท่องอินเตอร์เน็ตหาข้อมูล อ่านข่าว หรือการนั่งพิมพ์งาน ควรปรับ Font ให้มีขนาดพอดีกับสายตา ไม่ควรเพ่งหรือพยายามอ่านตัวอักษรขนาดเล็กจนเกินไป เวลาท่องอินเตอร์เน็ตเราสามารถกด ctrl และเครื่องหมาย + พร้อมกัน เพื่อเป็นการ Zoom หรือขยายภาพให้สามารถอ่านได้โดยไม่ต้องเพ่ง
นอกจากนี้ ในการทำงาน บางคนอาจจะต่อจอคอมพิวเตอร์ออก 2-3 จอพร้อมกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้คุณได้รับแสงจากหน้าจอคอมมากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ตาล้าได้เร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นแล้ว หากไม่มีความจำเป็น ให้ปิดหน้าจอที่ไม่ได้ใช้งานไปก่อน เหลือเพียงแค่ที่ใช้งาน เวลาจะใช้งานก็ค่อยเปิดจอขึ้นมา ก็จะเป็นการถนอมสายตา ไม่ต้องรับแสงสีจากคอมพิวเตอร์มากจนเกินไปอีกด้วย
8 เลือกใช้แว่นตากรองแสงสีฟ้า
แสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ จัดว่าเป็นแสงที่สามารถทะลุเข้าไปได้ถึงจอประสาทตา ซึ่งแสงสีฟ้านี้จะเป็นอันตรายต่อกระจกตาหรือประสาทตาได้มากที่สุดในแสงทุกสี เป็นสาเหตุของอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ตาแห้ง ในระยะยาวอาจจะเกิดการทะลุที่จอประสาทตา ซึ่งถือว่าเป็นภัยใกล้ตัวที่อันตรายเป็นอย่างมาก
การเลือกใช้แว่นกรองแสงสีฟ้า จะช่วยถนอมสายตา ยาช่วยสะท้อนแสงสีฟ้าออกไป สำหรับคนที่มีความจำเป็นจะต้องใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือจ้องมือถืออยู่บ่อยๆ การเลือกใช้แว่นตากรองแสงสีฟ้า ก็จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าดวงตา ช่วยถนอมสายตาจากแสงสีฟ้าที่จะทำอันตรายต่อประสาทตาได้เป็นอย่างดี
9 ลดการใช้มือถือระหว่างนั่งรถ
ทุกวันนี้พอเลิกงานขึ้นรถกลับบ้าน ส่วนใหญ่แล้วก็คงจะต้องนั่งมองจอมือถือกันเป็นอย่างแน่นอนจริงไหมล่ะคะ เคยสังเกตไหมว่า บางครั้งจะรู้สึกปวดหัว คลื่นไส้ เหมือนกับคนเมารถ สาเหตุก็เพราะว่า สายตาเรากำลังมองเห็นภาพนิ่ง แต่ร่างกายเรากำลังเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ร่างกายเราไม่สัมพันธ์กัน จึงเกิดการเสียสมดุลขึ้น นอกจากนี้การพยายามเพ่งมือถือ ขณะที่รถกำลังสั่น ก็จะยิ่งทำให้คุณต้องใช้สายตามากขึ้นไปอีก ทางที่ดี ควรพยายามมองออกไปข้างนอกรถบ้าง ให้ถือว่าเป็นการพักสายตาจากการทำงานหนักมาทั้งวัน แถมยังช่วยถนอมสายตาได้ดีอีกด้วย
10 กินวิตามินบำรุงสายตา
ถ้ายังจำเป็นต้องใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง และถึงแม้จะพักสายตาอย่างไรก็ยังมีอาการแสบตา ปวดเบ้าตา มองกลางคืนไม่ชัด ตามหลักแล้วควรจะพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตา โดยก่อนหน้าหากยังไม่มีเวลา หรือไม่สะดวก อาจจะเริ่มทานวิตามินบำรุงสายตา เช่น สารสกัดจากใบแปะก๊วย, โอเมก้า 3, ลูทีน, วิตามินเอ บี และ ซี อาจจะเป็นในรูปแบบของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงสายตา ที่รวมเอาวิตามินเหล่านี้ไว้ด้วยกัน
ซึ่งวิตามินเหล่านี้ จะช่วยบำรุงสายตาได้ดีในระดับหนึ่งเลย อย่างเช่น Omega 3 ที่อยู่ในน้ำมันปลา ก็มีส่วนในการช่วยรักษาภาวะตาแห้งค่อนข้างได้ผลดี วิตามินเอ ที่มีผลต่อการทำงานของจอประสาทตาโดยตรง รวมทั้งช่วยให้การมองเห็นเวลากลางคืนดีขึ้น เป็นต้น
- อ่านต่อ>> อาหารเสริมและวิตามินบำรุงสายตา สำหรับแก้ปัญหาตาแห้ง ปวดตา มองเห็นเวลากลางคืนไม่ดี
- 4 อาหารลดความดัน และอาหารที่คนเป็นความดันสูงห้ามกินมีอะไรบ้าง
บทส่งท้าย
“เริ่มต้นถนอมสายตาตั้งแต่วันนี้” ในโลกที่เราต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือจอมือถืออยู่ตลอดเวลาอย่างเช่นทุกวันนี้ คงหลีกเลี่ยงปัญหาในเรื่องของสายตาแทบไม่ได้เลย ทางที่ดีที่สุดคือ พยายามมองจอเฉพาะเวลาที่ทำงาน หรือหาข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น ลดเวลาที่ใช้อัพเดทข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ลงวันละ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งก็จะเป็นการถนอมสายตาที่ดีที่สุด
และสำหรับคนที่เริ่มมีปัญหาเรื่องสายตาแล้ว ควรตรวจสุขภาพตาปีละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อยทุก 2 ปี เพื่อวัดความดันตา รวมถึงตรวจเช็คจอประสาทตา เนื่องจากคนที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์วันละหลายชั่วโมงนั้น มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตามากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว อีกครั้งโรคตาบางชนิด จะแสดงอาการก็ต่อเมื่อเข้าขั้นรุนแรงแล้ว ซึ่งการตรวจสายตาอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด “อย่าลืมถนอมสายตา ให้อยู่รับภาพดี ๆ กับเราไปนาน ๆ นะคะ”